เร่งหาสาเหตุผู้โดยสารหมดสติบนรถตู้ คาดแอร์ทำงานไม่เต็มที่-อากาศร้อนจัด

เร่งหาสาเหตุ

เร่งหาสาเหตุผู้โดยสารหมดสติบนรถตู้ คาดแอร์ทำงานไม่เต็มที่-อากาศร้อนจัด

เร่งหาสาเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดยโสธร เร่งตรวจสอบหาสาเหตุของผู้โดยสารที่นั่งโดยสารมากับรถตู้สาธารณะประจำทางสาย “ยโสธร-มุกดาหาร” ที่มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ก่อนจะอาเจียนและหมดสติพร้อมกัน จำนวน 5 คน พร้อมกับได้ติดตามดูอาการของผู้โดยสารที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยโสธร เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 15 เมษายน 2567 พ.ต.อ.บุรภัช บุรีศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัดยโสธร ได้เข้าติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้ตรวจสอบสภาพรถของรถตู้โดยสารสาธารณะประจำทางสาย ยโสธร-มุกดาหาร ที่วันนี้ยังมีเปิดบริการวิ่งรับส่งผู้โดยสารตามปกติอยู่ แต่รถตู้คันเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ทางขนส่งจังหวัดยโสธรได้สั่งให้หยุดวิ่งรับส่งผู้โดยสารแล้ว พร้อมกับแจ้งให้นำรถเข้าตรวจสภาพพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ให้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงจะอนุญาตให้นำรถกลับมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้อีกครั้งและเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดยโสธรก็จะได้เร่งหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่

โดยในเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากระบบปรับอากาศของรถตู้ที่ทำงานไม่เต็มที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งในวันนี้มีรถตู้โดยสารสาธารณะสาย ยโสธร-มุกดาหาร มาจอดรอรับผู้โดยสารภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธรเพียง 2 คัน เท่านั้น ซึ่งพนักงานขายตั๋วโดยสารแจ้งว่า ปกติจะมีรถวิ่งรับส่งผู้โดยสารวันละประมาณ 2-3 เที่ยวเท่านั้น ขณะเดียวกันทางขนส่งจังหวัดยโสธรก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบความปลอดภัยทั้งตรวจสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบ และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของคนขับรถยนต์โดยสารสาธารณะทุกคันที่วิ่งเข้าออกสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธร

เร่งหาสาเหตุ

พร้อมกันนี้ทางคณะรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ยังได้เดินทางไปติดตามดูอาการของผู้โดยสารทั้ง 5 คน ที่มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกอาเจียนและหมดสติที่นำตัวส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลยโสธร ซึ่งขณะนี้ที่โรงพยาบาลยโสธร ยังคงเหลือผู้โดยสารอยู่ 2 คน หญิง 1 คน และชาย 1 คน ที่มีอาการหนักแพทย์ให้นอนรอดูอาการ ส่วนอีก 3 คน แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้

จากการสอบถาม นางเพชรลดา พะวงษา ผู้โดยสารชาว สปป.ลาว ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยโสธร เล่าว่า ปกติตนเป็นร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวและได้ขึ้นรถตู้โดยสารคันดังกล่าวที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร เพื่อมาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดยโสธร เพื่อจะเดินทางต่อไปหาลูกที่อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

“ตนนั่งเบาะแถวหน้าสุดติดกับผู้โดยสารหญิงอีกคนที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังคนขับโดยรถตู้คันดังกล่าวรับผู้โดยสารขึ้นมาทั้งหมด จำนวน 15 คน แล้วออกจากจังหวัดมุกดาหารและระหว่างทางก็มีผู้โดยสารขึ้นลงเรื่อยๆ ระหว่างนั้นตนรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น มีแต่ลมออกมาเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งรถวิ่งมาถึงเขตจังหวัดยโสธร ก่อนจะเข้าตัวเมืองยโสธรประมาณ 10 กิโลเมตร ได้เหลือผู้โดยสารในรถประมาณ 6 คน ตนจึงมีอาการแน่นหน้าอกปวดศีรษะอย่างแรงและหายใจไม่ออกแล้วมีอาการอาเจียน ผู้โดยสารหญิงที่นั่งข้างๆ จึงถามว่าไหวไหม ตนก็พยายามบอกว่าไหว จากนั้นตนก็หมดสติไปทันที จนรถมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธร จึงได้มีกู้ภัยมารับตัวตนเองและเพื่อนๆ ผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังของรถ ซึ่งมีอาการเหมือนกับตนไปส่งที่โรงพยาบาลยโสธร” ขณะที่ พ.ต.อ.บุรภัช บุรีศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร กล่าวว่า จากการสอบถามอาการของผู้โดยสารทั้ง 2 คน ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยโสธรทราบว่าเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและระบบปรับอากาศในรถตู้โดยสารไม่เย็นพอ และมีความแออัดของผู้โดยสารภายในรถ จึงอาจทำให้ผู้โดยสารมีอาการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับคนขับรถตู้โดยสารสาธารณะคันนี้ ซึ่งต้องรอตรวจสอบรายละเอียดและพยานหลักฐานต่างๆ อีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรต่อไป เหตุการณ์ดังกล่าวทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เผยว่า รถตู้โดยสารคันดังกล่าวเดินทางจากจังหวัดมุกดาหาร มีปลายทางที่จังหวัดยโสธร จากรายงานทราบว่าเหลือผู้โดยสารที่จะมาลงที่สถานีขนส่งยโสธร 6 คน ขณะเกิดเหตุทางนายช่างขนส่งจังหวัดยโสธร ได้ตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุมาจากอาการที่ร้อนจัดประกอบกับระบบปรับอากาศทำงานผิดปกติ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

เร่งหาสาเหตุ

นอกจากนี้ ทราบว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้เติมก๊าช แต่วิ่งระบบน้ำมัน นอกจากนี้ทางขนส่งจังหวัดยโสธร ได้ห้ามนำรถตู้คันดังกล่าวมาวิ่ง โดยจะมีการตรวจสอบสภาพรถให้สมบูรณ์พร้อมใช้งาน ขณะที่ผู้โดยสารทั้ง 5 ราย ที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.ยโสธร มี 3 รายแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว อีก 2 ราย ยังนอนแอดมิตที่ รพ.ยโสธร หนึ่งรายมีอาการหนาวสั่น อีกรายรอผลตรวจเลือดจากแพทย์ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ได้ให้บริษัทรถตู้โดยสารเป็นผู้รับผิดชอบ และให้ประสานบริษัทรถตู้ เรื่องเงินชดเชยเยียวยาสภาพจิตใจของผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ  ส่วนในช่วงนี้ทางขนส่งจังหวัดยโสธร มีการตรวจสภาพรถเครื่องยนต์ และคนขับ ในการเดินทางตลอด แต่จะเพิ่มให้มีการตรวจเรื่องระบบระบายอากาศให้มีความพร้อมใช้งาน

ที่มา : ไทยรัฐ