หนุ่มตุ๊กๆ หัวร้อน ตกลงราคาไม่ได้ ประแจเหล็กฟาด

หนุ่มตุ๊ก

หนุ่มตุ๊กๆ หัวร้อน ตกลงราคาไม่ได้ ประแจเหล็กฟาดนักท่องเที่ยวอังกฤษ กลางกรุง

หนุ่มตุ๊ก

หนุ่มตุ๊กๆ หัวร้อน ตกลงราคาไม่ได้ ประแจเหล็กฟาดนักท่องเที่ยวอังกฤษ กลางกรุง ก่อนขับรถหนี ตร.ไล่เช็กวงจรปิด จนจับตัวได้ อ้างกลัวโดนทำร้าย
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี สั่งการตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เวลา 01.18 น.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบผู้เสียหายจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายจาซเวนเดอร์ ซิงห์ เนน สัญชาติอังกฤษ และ นายแมนดิพ ซิง สัญชาติอินเดีย นักท่องเที่ยว ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะทั้ง 2 ราย

 

หนุ่มตุ๊ก

จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีทรัพย์สินหายไปแต่อย่างใด จากการสอบถามทราบว่า ในระหว่างที่มีการต่อรองราคาค่าโดยสารรถยนต์ 3 ล้อรับจ้างนั้น ตกลงราคากันไม่ได้ และผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ถูกคนร้ายผู้ขับขี่รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง ใช้อาวุธเป็นของแข็งตีที่บริเวณศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ และขับรถหลบหนีไป โดยผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้รับการปฐมพยาบาลและเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดังกล่าว

หนุ่มตุ๊ก

ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนเส้นทางก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ได้ตำหนิรูปพรรณคนร้ายและทราบทะเบียนยานพาหนะคันก่อเหตุ สืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่าคนร้ายชื่อ นายอรรถพล อายุ 32 ปี สัญชาติไทย มีอาชีพขับขี่รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงติดตามตัวและเชิญตัวมา ยังสน.ลุมพินี เพื่อดำเนินการสอบถามและตรวจสอบ และก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายอรรถพล รับว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธคือประแจเหล็ก ตีที่บริเวณศีรษะนักท่องเที่ยว ทั้ง 2 คนจริง โดยมีมูลเหตุจูงใจมาจากการตกลงค่าโดยสารกันไม่ได้และสื่อสารกันไม่เข้าใจ จนมีปากเสียงกัน และตนกลัวว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายจะเข้ามาทำร้ายตน จึงใช้ประแจเหล็กที่อยู่ในรถ ตีเข้าไปที่บริเวณศีรษะผู้เสียหายนักท่องเที่ยวทั้ง 2 และขับรถหลบหนีไป
จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวและเข้ามามามอบตัวในเวลาต่อมา ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายอรรถพลในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไม่พบประวัติคดีอาญาและหมายจับแต่อย่างใด
ผลคำพิพากษา จำเลยรับผิดตามฟ้อง โทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอ 1 ปี คุมประพฤติ 3เดือน/ครั้ง ภายใน 1 ปี ให้ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง