ลูกช็อก! เศรษฐินีโรงหล่อพระถูกยิงดับพร้อมเลขา เป็นศพในบ้านทั้งคู่ เผยเวลาตายห่างกัน 2 วัน
ลูกช็อก! เศรษฐินีโรงหล่อพระถูกยิงดับพร้อมเลขา เป็นศพในบ้านทั้งคู่ เผยเวลาตายห่างกัน 2 วัน เปิดวงปิดกระจ่าง คาดลงมือกันเอง แต่ยังไม่รู้สาเหตุอะไร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค.67 ร.ต.ท.พิทักษ์ คำนนท์คอม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุให้เข้าไปตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ริมถนนคันคลองชลประทาน ใหล้ รพ.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น ด้านหน้าต่อเติมเป็นห้องกระจก เปิดเป็นร้านจำหน่ายพระพุทธรูป รับหล่อพระ เครื่องสังฆภันฑ์ โต๊ะมุก ผ้าม่าน ของแต่งบ้าน ฯลฯ ที่หน้าบ้าน มีรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียนประมูล จอดอยู่ โดยมี นายเอ (นามสมมติ) ลูกชายเจ้าของบ้าน รอพบเจ้าหน้าที่ โดยบอกกับตำรวจว่า ไม่สามารถติดต่อ นางพัด (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ได้มาหลายวันแล้ว จนผิดสังเกตุ ด้วยความไม่สบายใจกลัวจะเกิดเหตุร้ายกับแม่ จึงพร้อมด้วยภรรยาเดินทางมาหาแม่ที่บ้านพัก
เมื่อมาถึงก็พบว่าบ้านปิดล็อคไว้ แต่มีเสียงแอร์ทำงาน ประกอบกับรถยนต์ของแม่จอดอยู่หน้าบ้าน พยายามตระโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปทางหน้าต่างบานเกร็ดด้านหลังบ้าน จากนั้นได้เดินหาแม่ที่ชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องกั้นกระจก 2-3 ห้อง กระทั่งมาถึงห้องกระจกด้านในสุดหลังตู้ ประตูห้องล็อค แต่มองเห็นร่างคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ ขณะเดียวกันมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเตะจมูกอย่างแรง คิดว่าต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบภายในบ้าน ก็พบศพ นางพัด อายุ 63 ปี เศรษฐีนีเจ้าของโรงหล่อพระ มีผ้าห่มคลุมร่างไว้ ใกล้กันยังพบร่าง นางสุ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเลขาของนางพัด นอนเสียชีวิต สภาพสวมแต่ชุดชั้นใน จากสภาพศพคาดว่าทั้งสองรายจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว จากนั้นตำรวจ สภ.หัวหิน ได้แจ้งพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหัวหิน มาตรวจสอบและเก็บหลักฐาน เบื้องต้นพบว่าทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. โดยกระสุนเข้าที่ศีรษะ 1 ราย และอีก 1 รายเข้าที่หน้าอก
ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) ภรรยาของลูกชาย นางพัด เล่าว่า ตามปกติแม่จะพักอาศัยอยู่คนเดียว เพราะไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย โดยมีพี่สุ ทำหน้าที่เลขา คอยดูแลช่วยขับรถ พาแม่ไปทำบุญบ้าง ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือไปหาญาติที่ต่างจังหวัด หลังจากแม่ย้ายมาอยู่อำเภอหัวหิน สามีตนจะโทรศัพท์และวิดีโอคอลหาแม่เป็นประจำ ซึ่งแม่จะมีนิสัยชอบปิดมือถือ หรือติดต่อไม่ได้ครั้งละหลายวัน เพราะบางครั้งเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด ชอบเดินทางใช้ชีวิตอิสระ แต่จะโทรศัพท์คุยกับลูกชายโดยตลอด
กระทั่วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา แม่บอกว่าจะไปหาคุณยายที่ จ.ชุมพร ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแม่เดินทางบ่อย แต่มารู้สึกผิดปกติเพราะโทรไปแล้วไม่รับสาย ช่วงแรกคิดว่าแม่อยู่กับคุณยายจึงไม่อยากรับสาย แต่ปรากฎว่าญาติที่ จ.ชุมพร แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อแม่ได้ ทั้งที่นัดกันว่าจะมาหา และแม่ยังไม่ได้โอนเงินให้กับพยาบาลพิเศษที่ดูแลคุณยาย ทำให้เกิดความสงสัย และสามีตนรู้สึกร้อนใจมาก จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาหาจนพบว่าแม่และเสขาเสียชีวิตแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า หญิงวัย 63 ปี เสียชีวิตมาแล้ว 7 วัน ส่วนหญิงอีกราย อายุ 46 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ โดยตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตาย และอุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมกันเอง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ที่มา : ข่าวสด
