รวบแล้ว “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาว หลอกลงทุนร้านทำเล็บ ค่าเสียหาย 10 ล้าน

รวบแล้ว “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาว หลอกลงทุนร้านทำเล็บ ค่าเสียหาย 10 ล้าน

รวบแล้ว

รวบแล้ว ตำรวจสืบนครบาล ตามรวบ เน็ตไอดอลสาวคนดัง “ใบเฟิร์น-มณฑิรา อินทร์สุวรรณ” หลังตระเวนก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อให้ลงทุนร้านตัดผมและร้านทำเล็บ ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แฉเจ้าตัวยังใช้ชีวิตสุขสบาย กินอยู่หรูหรา ทั้งที่มีหมายจับติดตัว เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 พ.ย. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ตำรวจ PCT5 และ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ผัดก๋า รอง ผกก.สส.สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นำกำลังจับกุม น.ส.มณฑิรา อินทร์สุวรรณ หรือ “ใบเฟิร์น” อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ

หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.997/2566 ลงวันที่ 5 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่) และหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.1073/2566 ลงวันที่ 26 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่)

รวบแล้ว

สืบเนื่องจากตำรวจชุด PCT5 และชุดสืบนครบาล ติดตามไล่ล่า “เน็ตไอดอลดัง อักษรย่อ บ.” หลังตระเวนก่อเหตุ หลอกลวงให้ลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยมีเหยื่อหลงเชื่อ ร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ด้วย น.ส.มณฑิรา เป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดี และยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ออกรายการทีวีต่างๆ ถ่ายแบบ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ โปรไฟล์ IG ของ น.ส.มณฑิรา มีผู้ติดตามกว่า 120,000 คน และในเฟซบุ๊กของ น.ส.มณฑิรา ยังมีการโพสต์ภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีชื่อเสียงอีกหลายๆ คน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้มาสอดส่องโปรไฟล์ น.ส.มณฑิรา เป็นอย่างดี

กระทั่งช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา น.ส.มณฑิรา ได้เริ่มโพสต์เชิญชวนให้ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนการทำร้านตัดผมและทำเล็บ โดยเสนอเป็นแพ็กเกจต่างๆ ยอดปันผลขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และเมื่อถึงกำหนดก็จะได้เงินปันผล เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและตัดสินใจโอนเงินไปร่วมลงทุนกับ น.ส.มณฑิรา แล้ว น.ส.มณฑิรา ก็ไม่ค่อยตอบข้อความ อ้างว่างานเยอะ ติดงานต่างๆ ส่วนสัญญาที่พิมพ์มาให้เซ็นก็ผิดๆ ถูกๆ หลายครั้ง และเมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินปันผล น.ส.มณฑิรา จะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงิน จนถึงช่วงปลายเดือน มิ.ย. 66 น.ส.มณฑิรา อ้างกับเหยื่อว่า บริษัทถูกยักยอกเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาคืนให้กับผู้ร่วมลงทุน และหนีหายเข้ากลีบเมฆไป กระทั่งบรรดาเหยื่อที่ร่วมลงทุนทยอยเข้าแจ้งความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ จำนวน 2 หมายจับ

ล่าสุดเหยื่อได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เจ้าตัวได้หลบหนีมากบดาลในพื้นที่ กทม. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT5 ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว โดยมีเพียงเบาะแสว่า น.ส.มณฑิรา “กินหรูอยู่สบายละแวกทองหล่อ” ชุดสืบสวนตระเวนตรวจสอบแต่ยังคงไร้ร่องรอย กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช พบเบาะแสจากสายลับว่า น.ส.มณฑิรา ควงหนุ่มอยู่ตามห้างดังในพื้นที่ กทม. กระจายกำลังตามห้างดังทั่ว กทม. 5 วัน กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. 66 ชุดสืบสวนที่แฝงตัวอยู่ที่ห้างยูเนี่ยนมอลล์ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. พบตัวขณะกำลังเดินหาซื้อชุดว่ายน้ำกับหนุ่มชาวต่างชาติ เข้าแสดงตัวและจับกุม

รวบแล้ว

น.ส.มณฑิรา หรือใบเฟิร์น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาคเหนือ เข้า กทม.มา 3 สัปดาห์แล้ว ไม่ได้หลบหนี ตนเปิดร้านตัดผมและทำเล็บอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ชื่อร้านกู๊ดคัด เห็นว่ามีรายได้ดี เชิญผู้สนใจมาร่วมลงทุนร่วมกัน รายละ 50,000-1,000,000 บาท และยังเปิดรับลงทุนร่วมรับจำนำของ จากนั้นนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมาก และซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้ ทำให้ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ร่วมลงทุน ส่วนร้านกู๊ดคัด เนื่องจากหาช่างไม่ได้และลูกค้าน้อย ทำให้ไม่มีเงินจ่ายให้กับผู้ร่วมลงทุน ตนพยายามหาซื้อของแบบซื้อมาขายไป หวังว่าถ้ามีเงินจะนำไปทยอยคืนให้กับผู้เสียหาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และจะมีการขยายผลการจับกุมโดยละเอียด จากข้อมูลที่ได้วิธีการที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้หลอกลวงนั้น เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้มีความน่าเชื่อถือ ถ่ายภาพคู่รถหรู หรือดาราผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ จากนั้นการหลอกลวงจึงทำได้ไม่ยากนัก

รวบแล้ว

ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนยุคใหม่ว่า การร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง เพราะในปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก การตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์ในโลกออนไลน์นั้นยังไม่เพียงพอ จะต้องศึกษาหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ และขอเตือนไปยังเหล่ามิจฉาชีพทางออนไลน์ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการระดมปราบปรามผู้กระทำผิดทางออนไลน์อยู่ตลอด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฉะนั้นผู้ที่ยังทำหรือคิดจะทำ ขอเตือนว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย เมื่อได้ลงมือก่อเหตุแล้ว และมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว ยังไงก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง ก่อนนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป