รถพ่วงชนกระบะไฟลุกวอด คนขับล่องหน กู้ภัยรุดช่วย จู่ๆพลเมืองดีมาเจอกันอัดกันนัว-ห้ามวุ่น

รถพ่วงชนกระบะไฟลุกวอด คนขับล่องหน กู้ภัยรุดช่วย จู่ๆพลเมืองดีมาเจอกันอัดกันนัว-ห้ามวุ่น

รถพ่วงชนกระบะ

รถบรรทุกพ่วงชนรถกระบะไฟลุกวอดทั้งคัน คนขับกระบะล่องหน กู้ภัยรุดช่วย จู่ๆวัยรุ่นพลเมืองดีมาเจอกันอัดกันนัวกลางวงกู้ภัย จนท.เข้าห้ามสุดวุ่น 2 รอบ เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 7 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถกระบะ ทำให้ไฟลุกไหม้รถกระบะวอดทั้งคัน ส่วนรถบรรทุกพลิกคว่ำอยู่ข้างถนน บนถนนสาย 331 หมู่ 11 ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอบต.นาวังหิน

รถพ่วงชนกระบะ

ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะไม่ทราบรุ่นสี ทะเบียน บห 735 ฉะเชิงเทรา กำลังถูกไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่ข้างถนน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมเร่งฉีดน้ำดับไฟ สกัดไม่ให้ลุกลามไหม้รถบรรทุกที่พลิกคว่ำอยู่ไม่ห่างกัน

รถพ่วงชนกระบะ

จากการตรวจสอบพบว่ารถบรรทุกทะเบียน 63-3022 กทม. ตะแคงพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง และพบ นายจินดา สมสร อายุ 50 ปี เป็นคนขับมากับ เด็กชายอายุ 10 ปี ที่เกิดเหตุไม่พบตัวคนขับรถกระบะ

รถพ่วงชนกระบะ

จากการสอบถาม นายจินดา คนขับรถบรรทุกได้เล่าว่า ตนได้บรรทุกสินค้ามาจากเครือสหพัฒน์กำลังมุ่งหน้าจะไปส่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ มาถึงที่เกิดเหตุ

รถพ่วงชนกระบะ

รถกระบะคันดังกล่าวได้เลี้ยวออกจากซอยตัดหน้าระยะกระชั้นชิด ตนจึงเบรกไม่ทัน ทำให้พุ่งชนกลางคันแบบเต็มแรง ทำให้รถกระบะหมุนและไฟลุกไหม้ ตนก็เสียหลักพลิกตะแคง ส่วนคนขับตนก็หาตัวไม่เจอ

รถพ่วงชนกระบะ

ในขณะที่ตำรวจและกู้ภัยกำลังช่วยกันตรวจสอบ มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นพลเมืองดีเข้ามาดูในที่เกิดเหตุ มีการด่าทอกันและเปิดศึกชกต่อยกันจนกู้ภัยต้องช่วยกันห้ามวุ่นถึง 2 ครั้ง และจับตัวให้แยกย้ายกัน จากการสอบถามนางสาวปาริชาติ อายุ 31 ปี ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า มีวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังเดินดูในที่เกิดเหตุ แต่มีพลเมืองดีอีกคนได้ไปถามว่า

รถพ่วงชนกระบะ

พี่เป็นคนขับรถกระบะใช่ไหม ทำให้วัยรุ่นอีกคนไม่พอใจถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขับรถกระบะ จึงปรี่จะเข้าไปชก จนกู้ภัยต้องช่วยกันมาห้าม และอธิบายจึงรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น

รถพ่วงชนกระบะ

ทางด้าน นายกิตติภัค ธีรธนันกุล พนักงานดับเพลิงอบต.นาวังหิน ได้เล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกกับรถกระบะชนกันจนเกิดไฟลุกไหม้ จึงรีบนำกำลังมาตรวจสอบ

รถพ่วงชนกระบะ

เมื่อมาถึงพบไฟกำลังลุกไหม้รถกระบะอย่างรุนแรงและไฟกำลังจะลุกลามไปหารถบรรทุก จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟทำให้เหตุการณ์นี้ไฟได้ลุกไหม้เพียงแค่รถกระบะจนวอดเท่านั้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนคนขับรถบรรทุกอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอให้คนขับรถกระบะมาติดต่อเนื่องจากไม่เจอตัวในที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้สอบสวนอย่างละเอียดเพิ่มเติมและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : ข่าวสด