ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด “น้องโอ๋” ไม่สิ้นสุดความพยายาม ขอตามทวงบัลลังก์สู่ราชันคนเดิม

ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด

ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด “น้องโอ๋” ไม่สิ้นสุดความพยายาม ขอตามทวงบัลลังก์สู่ราชันคนเดิม

ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด

ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด “น้องโอ๋” ยืนยันความพ่ายแพ้ต่อ “นิโค” ไม่ทำให้เกิดความย่อท้อแม้แต่น้อย มั่นใจในสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมสู้ต่อ เพื่อเป้าหมายเดียวในการทวงบัลลังก์กลับคืน เริ่มปฏิบัติภารกิจทวงคืนบัลลังก์ก้าวแรกไม่สำเร็จดั่งใจหวัง สำหรับ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 37 ปี หลังพลาดท่าถูกนักชกรุ่นน้องจากสกอตแลนด์ วัย 25 ปี “นิโค คาร์ริลโล” ฟันศอกเอาชนะน็อกไปในยกที่สอง ของศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา การต้องขึ้นสังเวียนปะทะกับนักชกสูงใหญ่กว่าอย่าง “นิโค” ทำให้ “น้องโอ๋” วางแผนมาเล่นเกมวงนอกตั้งแต่ยกแรก โดยใช้ลูกเตะขา เป็นอาวุธสำคัญในการทำลายฐานราก เล่นเอา “นิโค” ที่กางตำรารับแทบไม่ทัน ถึงกับเป๋ไปเป๋มา ก่อนจะได้เสียงระฆังช่วยให้เอาตัวรอดไปได้แบบหวุดหวิด แต่ปรากฏว่าเมื่อยกที่สองเริ่มขึ้น สถานการณ์กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลัง “น้องโอ๋” พลาดท่าโดน “นิโค” สับศอกจนเข่าทรุด ก่อนจะโดนตามซ้ำด้วยพายุหมัดชุดใหญ่จนถึงกับติดมุม แม้จะหนีเอาตัวรอดออกมาได้ แต่สุดท้ายก็ถูกฟันศอกเข้าเต็มหน้าเป็นรอบที่สองจนถึงกับล้มหงายทันที ส่งผลให้กรรมการต้องสั่งยุติการแข่งขัน พ่ายน็อกเป็นไฟต์ที่สองติดต่อกันอย่างน่าเสียด

ยากแค่ไหนก็ไม่หยุด

น้องโอ๋ vs นิโค (22 ธ.ค.66)แม้จะยืนแลกเดือดกันแบบถึงพริกถึงขิง แต่หลังจบเกมทั้ง “นิโค” และ “น้องโอ๋” ต่างสวมกอดแสดงความเคารพซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นภาพความประทับใจสู่สายตาแฟนมวยทั่วโลก ซึ่ง “น้องโอ๋” ได้กล่าวเปิดใจถึงนักชกรุ่นน้องรายนี้ด้วยความชื่นชมโดย “น้องโอ๋” ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนฟื้นฟูสภาพร่างกาย ที่บ้านของตัวเองในจังหวัดอุดรธานี ได้ทิ้งท้ายด้วยการกล่าวขอบคุณแฟน ๆ สำหรับทุกกำลังใจที่มอบให้ พร้อมประกาศเสียงดังฟังชัดว่าตนเองในวัย 37 ปียังคงมีไฟ และมีความกระหาย พร้อมที่จะทำงานหนัก เพื่อกลับมาทวงคืนบัลลังก์ที่เสียไปในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพนักมวยไทยของตนเองให้ได้ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh