ชายวัย37 ดับคาวงเหล้า หลังนั่งก๊งกับเพื่อน เช้ายันเย็น ตร.เร่งสอบ2ผู้ต้องสงสัย
ชายวัย37 ดับคาวงเหล้า หลังนั่งก๊งกับเพื่อน เช้ายันเย็น ตร.เร่งสอบ2ผู้ต้องสงสัย เจอถูกปาดคอ อีกคนนั่งเมาอ้างไม่ได้ทำ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ก.ค.2566 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ ธรรมสีหา รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้เหตุชายถูกมีดทำร้ายเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ซอยแจ้งวัฒนะ 5 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ. มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.ธนิศร บุญแม้น รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง แพทย์นิติเวชรพ.ภูมิพล และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ในชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว ตรวจสอบที่ชั้นล่างเป็นใต้ถุน มีม้านั่งตั้งอยู่พบร่างนายพรอนันท์ หรือตี๋ อายุ 37 ปี ไม่มีอาชีพ สภาพนอนหงาย มีบาดแผลจากของมีคมที่คอ ใกล้กันพบมีดสปาต้า ยาว 1 ฟุต ตกอยู่ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยทราบชื่อ พ.จ.อ.เทอดเกียรติ อายุ 43 ปี อดีตทหารอากาศ อยู่ในอาการเมาสุราพูดสั้นๆว่า เค้าล้มเอง เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปโรงพัก สอบถามนายถาวร อายุ 60 ปี กล่าวว่า พวกตน 3 คน มาช่วยกันรื้อหลังคาบ้านในส่วนที่ยื่นออกจากตัวบ้านพร้อมกับดื่มสุรากันตั้งแต่เช้า โดยทั้งวันไม่มีมูลเหตุใดๆ ทำงานดื่มสุรากันปกติพูดคุยสารทุกข์สุขดิบตามประสาคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกันรู้จักกันมานาน พอใกล้ค่ำตนออกไปซื้อกับแกล้มที่ตลาดกลับมาก็พบว่านายพรอนันท์ นอนแน่นิ่งอยู่ข้างม้านั่ง
ส่วนนายเทอดเกียรติ ไปนั่งอยู่ใต้บันไดบ้านโดยนั่งทับมีดเปื้อนเลือดอยู่ พร้อมอ้างว่า เค้าล้มไปเอง ตนจึงรีบไปตามนายวินัย อายุ 62 ปี พ่อผู้เสีบชีวิตมาช่วยตรวจสอบและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้บ้านดังกล่าวเป็นของนายพรอนันท์ ที่พักอาศัยอยู่กับพ่อป่วยเป็นอัมพาตนอนติดเตียงเพียง 2 คน พ.ต.อ. มารุต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน นายเทอดเกียรติ กับนายถาวร ไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่โรงพักเบื้องต้นนายเทอดเกียรติ ยังไม่ยอมให้การใดๆ และยังอยู่ในอาการมึนเมา จึงต้องรอให้ได้สติก่อนถึงจะสามารถให้การได้
ส่วนนายถาวร ให้การว่าดื่มสุราด้วยกันแทบทุกวัน ผู้เสียชีวิตยังคอยช่วยมาบีบนวดดูแลพ่อนายเทอดเกียรติ อยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานสอบสวนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุต่อไป
