จับหนุ่มเสื้อลายดอก วิ่งราวทองหนัก 5 บาทค่า 2 แสน ร้องลั่นหาพ่อ

จับหนุ่มเสื้อลายดอก วิ่งราวทองหนัก 5 บาทค่า 2 แสน ร้องลั่นหาพ่อ

จับหนุ่ม

จับแล้วหนุ่มใส่เสื้อลายดอก วิ่งราวทองกลางห้างดังย่านบางพลี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ยังปฏิเสธ อ้างซื้อมาเองราคา 2 แสน เมื่อ 6 ปีก่อน โวยวายร้องหาพ่อ ขัดขืนการจับกุมของ จนท.ตำรวจ ไม่ยอมขึ้นรถไปโรงพัก  จากเหตุการณ์ เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 15 เม.ย. 2567 ที่ห้างทอง ออโรร่า ชั้น 2 ห้างโลตัส สาขาบางนา กม.8 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้มีคนร้ายชาย 1 คน สวมเสื้อลายดอกสีขาวน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีขาว ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท โดยทำทีเป็นลูกค้าไปขอซื้อทองและเลือกสร้อยคอทองคำ อาศัยช่วงจังหวัดที่พนักงานหันไปหยิบกระจก คนร้ายฉวยโอกาสคว้าสร้อยคอทองคำวิ่งหลบหนีไป หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เป็นหัวหน้าทีมจัดชุดสืบสวนของ สภ.บางแก้ว นำโดย พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง ผกก.สส.สภ.บางแก้ว พ.ต.ต.วสันต์ วงศ์เรือง สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว กระจายกำลังออกไล่ล่าตัวคนร้ายทันที จาการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อเวลา 18.33 น. คนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกรม ลายดอกไม้ กางเกงขาสั้นสีครีม สวมรองเท้าแตะแบบหูหนีบสีดำ สะพายกระเป๋าสะพายช้างสีน้ำตาล สวมใส่นาฬิกาข้อมือสีดำ และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น และวิ่งหลบหนีออกไปจากห้างสรรพสินค้า มุ่งหน้าถนนเทพรัตน์ และวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในลานจอดของห้าง ดีแคตลอน สาขาปากชอยราม 2 ต.บางแก้ว ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีเข้าไปในซอยจรรยวรรธ (ซอยราม 2)

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าผู้ก่อเหตุที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด คือ นายฏิภาณ แสนกล้า อายุ 28 ปี ที่อยู่ หมู่ 2 ต.บ้านตารา อ.พิชัย จ อุตรติดถ์ และพักอยู่อพาร์ตเมนต์ หมู่ 7 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุมาอยู่ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นั่งอยู่ตรงปากทางออกภายในปั๊มน้ำมัน จึงเข้าจับกุมตัว จากการตรวจค้นพบสร้อยทองรูปพรรณ น้ำหนัก 5 บาท ของกลาง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล จึงนำตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สภ.บางแก้ว พร้อมเชิญผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงานร้านทองมาชี้ยืนยันตัว ทั้งผู้ต้องหาและสร้อยคอทองคำ ของกลาง ซึ่งพนักงานและพยานระบุเป็นผู้ก่อเหตุ อย่างไรกตาม นายฏิภาณ ผู้ก่อเหตุ ให้การปฏิเสธว่าสร้อยคอสร้อยดังกล่าวเป็นของตน ซื้อมาในราคาประมาณ 200,000 บาท จากห้างทองจดจำชื่อไม่ได้ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อประมาณ 6 ปีเศษ ทั้งยังพูดจาโดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย และใช้กำลังต่อสู้ขัดขืน ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ตลอดการตรวจค้นจับกุมร้องเรียกหาพ่อให้ช่วยอยู่ตลอดเวลา  หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย