จะแน่สักแค่ไหน “อาร์จาน” เตรียมเชือดนิ่ม “อนาโตลี” พิสูจน์ฝีมือแชมป์โลกตัวจริง
จะแน่สักแค่ไหน “อาร์จาน บูลลาร์” ราชันรุ่นเฮฟวีเวต เตรียมแผนปิดเกมไว “อนาโตลี มาลีคิน” พิสูจน์ฝีมือแชมป์โลกรุ่นยักษ์ ยึดตำแหน่งเจ้าของบัลลังก์เพียงหนึ่งเดียวบนสังเวียนลุมพินี
“Singh” อาร์จาน บูลลาร์ แชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต (225-265 ป.) พร้อมพิสูจน์ความเป็นหนึ่งกับเจ้าของเข็มขัดสองรุ่น “Spartak” อนาโตลี มาลีคิน แชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต เฉพาะกาล และ รุ่นไลต์เฮฟวีเวต (205-225 ป.) ในศึกยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ONE ลุมพินี 22 ที่จะถ่ายทอดสดจากเวทีมวยลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย.นี้
นักสู้แดนภารตะวัย 37 ปี สร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการโค่นบัลลังก์ “แบรนดอน เวรา” และก้าวขึ้นเป็นราชันรุ่นเฮฟวีเวตคนแรกของอินเดีย เมื่อเดือน พ.ค.64 แต่หลังจากได้รับตำแหน่งไป “อาร์จาน” ก็หายเข้ากลีบเมฆ ปฏิเสธทุกคำท้ารบ ซุ่มรักษาอาการบาดเจ็บเงียบ ๆ นอกสังเวียน
และในระหว่างนั้น “อนาโตลี” นักสู้อารมณ์ดีจากแดนหมีขาวที่จ้องจะแย่งเข็มขัดตาเป็นมันแต่ยังไม่ได้ชิงเสียที ก็ได้รับโอกาสในการลงชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต เฉพาะกาล ที่ ONE จัดขึ้นเพื่อให้การแข่งขันในรุ่นนี้มีความเคลื่อนไหวต่อไป โดย “อนาโตลี” ก้าวขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์โลกชั่วคราวสมใจ และยังรวบตึงเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เฮฟวีเวตได้อีกเส้นในเวลาต่อมา แต่ “อาร์จาน” กลับไม่ยอมรับว่า “อนาโตลี” คือราชันสองรุ่นแม้ที่ผ่านมาแชมป์โลกเฉพาะกาลวัย 35 ปี จะกวาดชัยชนะด้วยการน็อกเอาต์ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการสู้ทั้งหมด 4 ไฟต์ใน ONE แต่ “อาร์จาน” มองว่าเกมของ “อนาโตลี” ยังมีช่องโหว่หลายจุด และเขาจะเป็นคนเผยจุดอ่อนของคู่แข่งชาวรัสเซียรายนี้ให้โลกรู้
เดิมทีทั้งคู่มีกำหนดการเจอกันในศึก ONE 161 เดือน ก.ย.65 แต่ “อาร์จาน” มีอาการบาดเจ็บรบกวนจึงต้องเลื่อนออกไป จากนั้นก็ได้คิวใหม่ในศึก ONE Fight Night 8 ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่การเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาของผู้ออกอากาศทำให้การแข่งขันคู่นี้ต้องถูกถอดออกจากรายการอีกครั้ง และในที่สุด “อาร์จาน” จะได้ประจันหน้ากับ “อนาโตลี” บนสังเวียนเสียที หลังทำสงครามน้ำลายกันมาพักใหญ่แต่ “อาร์จาน” ดูเหมือนจจะไม่ยี่หระกับการฟาดฝีปากของ “อนาโตลี” เท่าใดนัก โดยออกมาประกาศว่าเขาจะเป็นคนสั่งสอนและทำให้ “อนาโตลี” เงียบปากไปเองยิ่งไปกว่านั้น “อาร์จาน” ยังคิดว่าสนามมวยเวทีลุมพินีอันทรงเกียรติแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเขาที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าเขาคือแชมป์โลกตัวจริงของรุ่น พร้อมตอกย้ำความเหนือกว่าคู่ชกที่บาดหมางใจกันมานาน
