รู้จัก “นินจาเต่าเมืองไทย” สมิงดำ ลูกสวน ชีวิตพลิกผันจากศึก ONE ลุมพินี
ผลงานเข้าตาลีลาโดนใจ “สมิงดำ” ยอดนักชกจากค่ายมวยลูกสวน กลายมาเป็นดาวเด่นศึก ONE ลุมพินี อย่างรวดเร็ว แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
สร้างสีสันให้กับศึก ONE ลุมพินี ได้เป็นอย่างดีกับผลงานของ “นินจาเต่าเมืองไทย” สมิงดำ ลูกสวน มวยขวามาดกวน วัย 21 ปี จากจันทบุรี หลังก่อนหน้านี้ต้องฝ่าวิกฤตมรสุมชีวิตในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจของแฟนมวยทั่วประเทศ พร้อมไต่สู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างน่าภาคภูมิใจดาวเด่นจากค่ายมวยลูกสวนโชว์ทีเด็ดปราบคู่ชกต่างชาติมาได้สองไฟต์ติดต่อกัน เริ่มจากเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ชาคริยอร์ ยูราเยฟ” คู่แข่งจากอุซเบกิสถาน ในศึก ONE ลุมพินี 7 ต่อด้วยจัดการน็อกทีเคโอยกสาม “จาวาด บิกเดลี” คู่ปรับจากอิหร่าน ในศึก ONE ลุมพินี 12 พร้อมได้โบนัส 3.5 แสนบาทกลับบ้าน
เรียกว่ามาได้ไกลเกินฝันมาก หลังเมื่อช่วง 2 ปีก่อน อนาคตการชกมวยของ “สมิงดำ” ยังลูกผีลูกคน เนื่องจากได้ผลกระทบจากโควิด-19 จนไร้โปรแกรมขึ้นชก ต้องออกไปหางานเสริมเพื่อนำเงินมาใช้ประทังชีวิต แต่ในใจยังยึดมั่นตลอดว่าอยากได้โอกาสขึ้นชกที่ ONE ลุมพินี ได้สักครั้งในชีวิต“ผมได้กลับมาชกอีกครั้งหลังโควิดซาลงไปนี่เองครับ ก่อนหน้านั้นผมต้องไปรับจ็อบ ทั้งแบกเฟอร์นิเจอร์, ก่อสร้าง, ขายกับข้าว ผมทำมาหมดแล้วครับ นานเกือบสองปี สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ผมถึงได้กลับมาชกอีกครั้ง ตอนนั้นผมคิดว่าแค่เจอวิกฤตครับ ถ้าเราอดทน ยังไงการแข่งขันก็ต้องกลับมาแน่นอนครับ”
“ความหวังที่ผมอยากมาชกที่กรุงเทพฯ ก็เพื่อจะได้มายืนบนสังเวียน ONE อันนี้คือความฝันของผมเลยครับ พอรู้ว่ามีรายการนี้ขึ้นมาและตัวเองมีโปรแกรมได้ขึ้นชกก็รู้สึกดีใจมากครับ ไฟต์แรกผมตื่นเต้นมากครับ ขึ้นไปตอนแรกทำอะไรไม่ถูกเลย พอมาไฟต์สองเริ่มดีขึ้น แต่กว่าจะชนะได้ก็เหนื่อยเลยครับ”จากวันที่ต้องทำงานได้รับค่าแรงรายวัน 320-400 บาท “สมิงดำ” สู้ชีวิตจนกลายมาเป็นนักชกที่ได้เงินโบนัส 3.5 แสนบาท สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง โดยเจ้าตัวดีใจที่คิดไม่ผิด เลือกที่จะอดทนชกมวยที่ตนรักต่อไป
นอกจากผลงานบนเวทีจะดุเด็ดเผ็ดมันแล้ว ลีลานอกสนามของ “สมิงดำ” ก็แสบไม่แพ้กัน โดยเขาเลือกใช้คาแรกเตอร์ “เต่านินจา” ตัวการ์ตูนดังอเมริกันที่ตนชื่นชอบเป็นพิเศษ สร้างภาพจดจำให้แฟนมวยได้ติดตามเชียร์“ตอนเด็กๆ เพื่อนชอบเรียกผมว่านินจาเต่าครับและผมก็ชอบตัวการ์ตูนนี้ด้วย เพราะคาแรกเตอร์ไม่ค่อยเหมือนใครดี มีทั้งความพลิ้วและถึกทน รวมถึงเอ๋อๆ คล้ายตัวผมเลยครับ ฝากทุกคนติดตาม ‘นินจาเต่าเมืองไทย’ ผมจะทำผลงานออกมาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รับรองทุกคนจะจดจำผมได้แน่นอนครับ”