นักดื่มเฮ ศบค.ขยายเวลาดริงก์ในร้านอาหารถึงเที่ยงคืน แต่ยังไม่เปิดสถานบริการ

นักดื่มเฮ ศบค.ขยายเวลาดริงก์ในร้านอาหารถึงเที่ยงคืน

ศบค.ชุดใหญ่มีมติยังไม่อนุมัติให้เปิดสถานบริการ-ผับ-บาร์-คาราโอเกะ แต่ขยายเวลาให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ถึงเที่ยงคืน

วันนี้ (22 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงมติการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ขณะนี้ในหลายประเทศได้มีการผ่อนคลายมาตรการ และเมื่อเทียบกับอัตราส่วนการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อแม้จะสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องนำมาวิเคราะห์ รวมถึงอัตราการครองเตียง ในขณะที่ระบบ “เจอ แจก จบ” ที่มีผู้มารับบริการแล้ว 1,777,974 คน สามารถช่วยให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงได้อย่างเพียงพอ

โดยสถิติของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและมีโรคประจำตัว ส่วนจะนำไปสู่การประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นนั้น ตอนนี้ยังมีบางจังหวัดอยู่ในระยะที่ยังต้องต่อสู้กับการระบาดไม่เท่ากัน โดยการจะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นได้ อัตราการเสียชีวิตจะต้องน้อยกว่า 0.1% รายสัปดาห์ และต้องต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยใช้อัตราผู้เสียชีวิตจากโควิดหารด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาคูณด้วย 100

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาปรับระดับพื้นที่โซนสีตามสถานการณ์ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จะมีเพียงพื้นที่สีเหลือง ที่จากเดิมมี 47 จังหวัด เป็น 65 จังหวัด และสีฟ้า จาก 10 จังหวัด เป็น 12 จังหวัด คือ เพิ่มจังหวัดระยองและสงขลา ซึ่งจะไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว)

1. พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี

2. พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา (จังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่) ใช้มาตรการเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง

ขณะที่มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิดต่างๆ ยังคงไม่อนุญาตให้เปิดผับบาร์คาราโอเกะเต็มรูปแบบ แต่สามารถปรับให้เป็นร้านอาหารได้ และอนุญาตให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลาไม่เกิน 24.00 น. ส่วนแนวทางการจัดการผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 5 วัน และสังเกตอาการตนเอง 5 วัน หรือ 5+5

สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขในการเปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้เด็กเรียนปลอดภัยแบบออนไซต์ จึงต้องให้เด็กได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ในระดับชั้นประถมด้วย ขณะที่โรงเรียนประจำก็มีมาตรการจัดการอีกแบบหนึ่งเพื่อให้อยู่กับโควิดให้ได้ ทั้งนี้ ยังมีแผนการเข้าถึงวัคซีนในเด็กให้มากขึ้นและสามารถเปิดภาคเรียนได้

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ยังมีการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จะยึดการฉีดวัคซีนเป็นตัวหลักหากเดินทางผ่านระบบ Thailand Pass ให้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ประกอบกับหลักฐานการประกันสุขภาพ-ประกันภัย วงเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยเมื่อเดินทางมาถึงไทยแล้วไม่ต้องตรวจหาเชื้อ หากระหว่างการพำนักอยู่ในประเทศไทยมีการติดเชื้อก็เข้าสู่ระบบการรักษาได้ทุกที่ในประเทศไทย

ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้เข้าระบบกักตัวในห้องพัก (AQ) และถ้าหากผู้ที่เดินทางเข้ามา แต่ก่อนเดินทางได้มีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และไม่พบเชื้อ ก็อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้เช่นกัน

  • 1 พ.ค. เปิดประเทศ! นายกฯ เผย ศบค.ไฟเขียวยกเลิก Test&Go เหลือแค่ตรวจ ATK