ตรวจสอบแหล่งพบกุ้งเครย์ฟิช พบตายเป็นซากเริ่มส่งกลิ่นเน่า หวั่นทำระบบนิเวศพัง

ตรวจสอบแหล่งพบกุ้งเครย์ฟิช พบตายเป็นซากเริ่มส่งกลิ่นเน่า หวั่นทำระบบนิเวศพัง

เจ้าหน้าที่กรมประมงรุดตรวจสอบแหล่งพบกุ้งเครย์ฟิช พบตายเป็นซากเริ่มส่งกลิ่นเน่า คาดถูกปล่อยลงน้ำ หวั่นแย่งที่อยู่-อาหาร ทำระบบนิเวศพัง

ความคืบหน้ากรณีโลกโซเชียลมีเดียโพสต์ภาพพบกุ้งเครย์พิช (กุ้งก้ามแดง) สัตว์น้ำเอเลี่ยนสปีชีส์ ที่น้ำตกศรีดิษฐ์ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุดนางสาวสมมาศ บุญยวง ประมงอำเภอศรีเทพ รับผิดชอบงานด้านประมงอำเภอเขาค้อ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ว่าที่ร้อยตรี ชัยรัตน์ พุ่มช่วย ประมงจังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่เพื่อสำรวจพร้อมเก็บข้อมูลกุ้งเครย์ฟิช (กุ้งก้ามแดง) ที่พบบริเวณน้ำตกศรีดิษฐ์ ซึ่งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์เขาค้อ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา

กระทั่งได้พบนายวิทยา หมื่นโห้ง นายบุญชู ภูผา และ นายทวี คุ้มเกียง 3 เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาค้อ และได้รับแจ้งว่าหลังมีการแชร์ข้อมูลการพบกุ้งเครย์ฟิชไปบนเฟซบุ๊กแล้วนั้น หัวหน้าเขตห้ามล่าฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจจุดที่พบกุ้งเครย์ฟิช กระทั่งพบกุ้งตัวนี้ตายแล้ว โดยซากอยู่บนหาดทรายริมน้ำตกศรีดิษฐ์ จึงเก็บซากกุ้งเครย์ฟิชซึ่งเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นมาไว้ให้หัวหน้าฯ ตรวจสอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของ น.ส.สมมาศ พบซากกุ้งเครย์ฟิชเหลือก้ามเพียงข้างเดียว มีขนาดยาว 6.5 นิ้ว (16 ซม.) เป็นกุ้งเครย์ฟิชขนาดพ่อแม่พันธุ์ซึ่งโตเต็มวัยโดยคาดว่ามีอายุราว 2 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ จึงนำ น.ส.สมมาศ ไปสำรวจจุดที่พบซากกุ้งเคลย์ฟิชดังกล่าว

ทั้งนี้ น.ส.สมมาศ อธิบายถึงผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะ หากกุ้งเครย์ฟิชถูกปล่อยหลุดลงแหล่งน้ำสาธารณะ เพราะเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยน สปีชีส์ (Alien Species) จะไปทำลายระบบนิเวศ แย่งที่อยู่อาศัย แย่งอาหาร และจับสัตว์น้ำตามธรรมชาติกินเป็นอาหาร ทำให้สัตว์น้ำท้องถิ่นลดน้อยลง หรือสูญพันธุ์ได้ หากพบควรทำลายทิ้ง หรือสามารถจับมาประกอบอาหารได้

นอกจากนี้ น.ส.สมมาตร ยังสันนิษฐานด้วยว่า กุ้งเครย์ฟิชตัวนี้คงถูกผู้เพาะเลี้ยงปล่อยลงสู่แหล่งน้ำที่นี่ ขณะเดียวกันประมงอำเภอศรีเทพซึ่งดูแลงานประมง อ.เขาค้อ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อปี 2560 กระแสการเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชบูมสุดๆ สำหรับพื้นที่ อ.เขาค้อ มีผู้เพาะเลี้ยงแจ้งขึ้นทะเบียนกุ้งเครย์ฟิช จำนวน 26 ราย

แต่ภายหลังกระแสการเพาะเลี้ยงตกวูบ ทำให้ส่วนใหญ่เลิกเพาะเลี้ยง จนปัจจุบันเหลือผู้เพาะเลี้ยงกุ้งชนิดนี้เพียง 2 แห่ง โดยแห่งแรกที่ ต.สะเดาะพง เลี้ยงจำนวน 2 ตัว อีกแห่งที่ ต.หนองแม่นา เลี้ยง 6 ตัว โดยทั้งหมดเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร และจากการสอบถามไปยังผู้เพาะเลี้ยงทั้ง 2 แห่งก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยให้กุ้งเครย์ฟิชหลุดลงแหล่งน้ำสาธารณะแต่อย่างใด

จากนั้นนส.สมมาศยังฝากขอให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งชาวบ้านหากพบกุ้งเครย์ฟิช(กุ้งก้ามแดง) สัตว์เอเลี่ยนสปีชีส์ ควรทำลายทิ้งกรือสามารถนำไปประกอบเป็นอาหารรับประทานได้ ส่วนใครที่เพาะเลี้ยงไว้หสกเบื่อหรือไม่ต้องการเพาะเลี้ยงต่อไป ควรทำลายทิ้งเช่นกัน โดยไม่ควรปล่อยสัตว์น้ำต่างถิ่นชนิดนี้ลงแหล่งน้ำสาธารณะ เนื่องเพาะกุ้งเครย์ฟิชสัตว์น้ำต่างถิ่นชนิดนี้ นอกจากจะแย่งที่อยู่และแย่งอาหารสัตว์น้ำใจนท้องถิ่นแล้ว ยังจับสัตว์น้ำกินเป็นอาหาร ทำลายระบบนิเวศ จนอาจทำให้สัตว์น้ำในท้องถิ่นลดลงและอาจทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ได้

ฟุตบอลวันนี้ ราคาไก่ชนวันนี้ ราคาล่วงหน้าROV ข่าวสารวัวชน ข่าวสารมวยไทย

สนใจแทง ฟุตบอล มวยไทย ไก่ชนไทย วัวนชน เกมส์ROV

เข้ากลุ่มฟุตบอล 

สมัครได้ที่นี่ คลิก หรือ Line : @r1club