จุดเปลี่ยนโยธิน!

   ใครจะไปเชื่อว่ายอดมวยเข่าแถวหน้าของไทยอย่าง “โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป” จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องซ้อมรอรายการ เพราะไม่ได้ขึ้นชกมวยไทย 5 ยกมานานกว่า 1 ปีเต็ม นับตั้งแต่ต่อยหนสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นมวยคิวทองที่มีรายการต่อเนื่อง ได้ต่อยประมาณปีละ 7 ไฟต์ กระทั่งมาเกิดจุดเปลี่ยนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะในรุ่นน้ำเดียวกัน “โยธิน” เริ่มหาตัวชกในสายเพชรยินดียากเต็มที เพราะไล่ปราบคู่ชกมาเกือบหมดแล้ว จนต้องปล่อยเวตขึ้นไปหานักชกตัวใหญ่ หรือไม่ก็ต้องบีบน้ำหนักลงมาสู้กับพวกมวยรุ่นเล็ก เขาเริ่มมีความหวังบ้าง พราะช่วงเวลาดังกล่าว “พระจันทร์ฉาย คลองสวนพลูรีสอร์ท” กลับมาต่อยมวยไทยอีกครั้ง จนกลายเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ๆ เดือนกันยายน ปี 2562 “โยธิน” ถูกทาบทามจากเสี่ยแขก พีเค ให้มาเจอกับ “พระจันทร์ฉาย” โดยทั้งคู่ได้มีการถ่ายรูปจับมือและแถลงข่าวกันเป็นเรื่องเป็นราว ท่ามกลางความสนใจของแฟนมวยที่รอชม “มวยเอกถูกคู่แห่งยุค” แต่ต้องผิดหวัง พระจันทร์ฉาย ประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บเส้นเอวอักเสบ จนต้องถอนตัว

– โยธิน ซ้อมรอรายการอย่างมีความหวัง ก่อนจะต้องฝันสลาย เมื่อการแข่งขันหลายครั้งต่อมา ถูกยกเลิกเพราะสถานการณ์โควิด-19 ครั้งแรกยังส่งผลให้ “วงการมวยไทย” ไม่สามารถจัดชกได้อีกหลายเดือน และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย โยธิน ก็ได้ชกอีกประมาณ 2 ไฟต์ ขยับเวตขึ้นมาเจอกับ ป้อมเพชร ศิษย์หนุ่มน้อย และ ธงน้อย ลูกบ้านใหญ่ ปลายปี 2563 โยธิน มีโอกาสไปชิมลางต่อยมวย 3 ยกกับทางช่อง 8 เจอกับนักมวยบราซิล ก่อนจะมาพบข่าวร้ายเพราะช่วงต้นปี 2564 มีการระบาดของโควิด-19 อีกแล้ว ทำให้โปรโมเตอร์ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้นานหลายสัปดาห์ สุดท้ายกลางปี 2564 ทางหัวหน้าคณะเอฟ.เอ.กรุ๊ป ตัดสินใจพา โยธิน ไปซบกลุ่มพลังใหม่ เพราะอยากให้ โยธิน ได้มีรายการสม่ำเสมอต่อเนื่อง ทว่านับตั้งแต่ย้ายศึก โยธิน ก็ยังไม่ได้ชกสักที ครั้นพอมีรายการเตรียมประกบเจอกับ สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ซึ่งเป็นมวยในเครือเดียวกัน ก็มีผู้ใหญ่มาเบรก เพราะมองว่า โยธิน เสียเปรียบเยอะเนื่องจากต้องต่อน้ำหนักให้มากถึง 2.5 ปอนด์ โยธิน จึงตกล็อกอีกครั้งอดเจอ สมิงดำ ทั้งที่ประกบคู่ออกมาแล้ว โชคดีที่สุดท้ายมาได้ นาวาเอก ศิษย์เชฟบุญธรรม อาสามาเป็นคู่ชกให้กับ ขุนเข่าคำชะโนด ในพิกัดที่ตกลงกัน 124-127 ปอนด์ วันที่ 9 ตุลาคมนี้ ในศึกจ้าวมวยไทย