โวย ครู-ผอ.แสบหลอกถอนเงินออม อมเงินอาหารกลางวัน-ผ้าป่าการศึกษา สูญกว่า 5 แสน

โวย ครู-ผอ.แสบหลอกถอนเงินออม อมเงินอาหารกลางวัน-ผ้าป่าการศึกษา สูญกว่า 5 แสน

โวย

ชัยภูมิ ผู้ปกครอง โวยครู-ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง แอบถอนเงินออมเด็กนักเรียนอนุบาลยัน ป.6 ไปใช้ส่วนตัว พอเด็กเรียนจบ ไม่มีเงินจ่าย ทำเรื่องย้ายหนี สงสารลูกหลานอุตส่าห์เจียดเงินค่าขนมวันละ 5-10 บาท ฝากออมไว้ แฉยังมีทุจริตอาหารกลางวัน รวมทั้งเงินลงขันผ้าป่าการศึกษา ก่อสร้างโดมกลางแจ้ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาท เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้นำคลิปหลักฐาน สมุดบัญชีเงินฝากโครงการโรงเรียนธนาคารฯ ที่บันทึกการเบิกจ่ายเงินออมของลูกหลานเด็กนักเรียนขณะยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มาให้ผู้ดู หลังมีกระแสข่าวว่า ครูและผอ.โรงเรียนแห่งนี้ได้มีการยักยอกเงินนักเรียน ได้มีการยื่นเรื่องขอย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนอื่น ผู้ปกครองจึงได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะสงสารลูกหลานที่อุตส่าห์เจียดเงินค่าขนมวันละ 5-10 บาท ฝากออมไว้ แต่กลับถูกครูและ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ยักยอกไปใช้จนหมดและไม่มีเงินมาคืนให้กับนักเรียน แทนที่จะดูแลเด็กนักเรียน กลับมายักยอกเงินของเด็กนักเรียน ควรจะปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดี กลับทำแบบนี้มันเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี

ทั้งนี้ ผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวว่า อยากได้เงินที่ครูและ ผอ.โรงเรียน ได้ยักยอกเงินของบุตรหลานไปคืนภายในปีนี้ เพราะบางคนเรียนจบชั้น ป.6 ไปแล้วไปเรียนต่อ ม.1 ที่โรงเรียนอื่นแล้วก็ยังไม่ได้เงินคืน และไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนและค่าใช้จ่ายในการไปเรียนต่อ เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่ตั้งใจว่าจะนำเงินที่เด็กนักเรียนเก็บไว้ไปเป็นค่าเทอมในชั้นต่อไป และซื้ออุปกรณ์การเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา จึงอยากให้ทางต้นสังกัด หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหาแนวทางช่วยเหลือด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่าครูการเงินและ ผอ.โรงเรียน ได้มาขอให้ผู้ปกครองและแม่ครัว ช่วยทำเรื่องเบิกจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันให้อีก เป็นจำนวนกว่า 50,000 บาท ก็ยังไม่นำไปจ่ายให้แม่ครัว รวมทั้งทำเรื่องทุจริตเบิกเงินค่าอาหารกลางวันจาก 120 หัวเป็น 130 หัว หลังจากทางโรงเรียนได้ตรวจพบว่า ครูการเงินและ ผอ.โรงเรียน แอบถอนเงินออมเด็กตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.65 – 11 พ.ย.66  โดย น.ส.นก ซึ่งเป็นครู ได้ถอนเงินฝากของเด็กนักเรียน จากสมุดบัญชีเงินฝากจากธนาคาร ธ.ก.ส. ของนักเรียน จำนวน 130 คน

น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้ปกครองนักเรียน บอกว่า ลูกสาวเจียดเงินค่าขนมที่แม่ให้ไปวันละ 30 บาท เก็บออมกับทางโรงเรียนมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล แต่พอขึ้นชั้น ป.3 พอสอบถามกับผู้ปกครองคนอื่น ถึงรู้ว่าเงินออมของนักเรียนถูกครูและ ผอ.โรงเรียนแอบถอนออกไปทั้งหมด จำนวน 130 คน เป็นเงินหลายแสนบาท

เช่นเดียวกับ นายแดง (นามสมมติ) คณะกรรมการโรงเรียนและเป็นผู้ปกครองนักเรียนอีกคน บอกว่า หลานสาวออมเงินตั้งแต่เรียนอนุบาลถึง ป.5 รวมกว่า 32,000 บาท แต่กลับถูกครูหลอกถอนไปใช้ส่วนตัวจนหมด เมื่อหลานเรียนจบชั้น ป.6 จึงได้ไปทวงถามขอเบิกเงินเพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้หลานเรียนต่อในชั้นมัธยม แต่ครูและ ผอ.ไม่มีเงินจ่ายคืนให้ จึงมีการโวยวายขึ้น

“น่าสงสารลูกหลานมาก เพราะเขายอมแบ่งค่าขนมที่แม่ให้ได้เก็บออมไว้ แต่กลับถูกครูแอบถอนไปจนหมด ทางโรงเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็พยายามจะไกล่เกลี่ย แต่ที่ผ่านมานานนับเดือนแล้วก็ยังไม่ได้เงินคืน ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือเปล่า ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเลย โดยเพราะเงินที่ชาวบ้านและลูกศิษย์เก่าของโรงเรียนได้มีการลงขันทอดผ้าป่าโรงเรียนได้เงินมากกว่า 300,000 บาท เพื่อนำเงินไปก่อสร้างโดมกลางแจ้ง ก็ยังไม่รู้ว่าหายไปไหนเช่นกัน”

เมื่อทวงถามว่า เมื่อไรจะนำเงินมาก่อสร้างโดมฯ ก็ได้แต่บายเบี่ยงมานานนับปีแล้ว เสียใจมาก และสงสารลูกมากไม่คิดว่าคนเป็นครูจะทำกับเด็กนักเรียนได้ถึงขนาดนี้ เพราะเขาตั้งใจออมไว้เป็นทุนเรียนต่อมัธยม มันมีความสำคัญกับลูกหลานมาก จนตนต้องไปหาเงินฝากเข้าบัญชีให้ลูกไว้เหมือนเดิม เพราะกลัวเขาจะเสียใจ อยากให้ครูและ ผอ.โรงเรียน ที่ยักยอกเงินของลูกหลานไป ให้นำกลับมามาคืนและอยากให้ลงโทษทางวินัยด้วย เพราะครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กนักเรียน ไม่ใช่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแบบนี้ให้เด็กนักเรียนได้เห็น

ที่มา : ไทยรัฐ