เปิดนาทีรวบ2สาว แฉเล่ห์อ้างเลขาฯ กรรชัย จะพาไปออกโหนกระแส ลวงเหยื่อตุ๋นเงินจำนวนมาก
เปิดหลักฐานเพียบ เปิดนาทีรวบสองสาว แฉกลลวงอ้างเลขาฯ กรรชัย หลอกเป็นทีมงานจะพาไปออกโหนกระแส ลวงเหยื่อตุ๋นเงินจำนวนมาก เมื่อวันที่ 5 พ.ย.66 พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.,พ.ต.อ. ปัถย์ภวิศ วงษ์พินิจ ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท.สั่งให้ ว่าที่ พ.ต.ต.ธรรมชาติ ดำรงจักษ์ สว.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท.นำกำลังจับกุม น.ส.พัชญ์ธนัน (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และ น.ส.สุวรรณณา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน “พร้อมยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต 13 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 18 เล่ม จับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านซอย ปุณณวิถี 16 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ และอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านซอยลาดพร้าว 87 แยก 2 ถ. ลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
ทั้งนี้มีผู้เสียหายหลายรายแจ้งความกับตำรวจ บก.ปอท.ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นทีมงานรายการโหนกระแส และเป็นเลขาฯ ของ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง หลอกว่าจะช่วยเหลือเรื่องราวที่เดือดร้อนและจะประสานตำรวจให้ช่วยติดตามคดี ก่อนหลอกให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการ 35,000 บาท แต่สุดท้ายกลับปิดทุกช่องทางติดต่อไม่สามารถติดต่อได้
ต่อมาตำรวจกลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท. ลงพื้นที่สืบสวนพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะแฝงไปในกลุ่มของผู้เสียหายที่นำเรื่องราวความเดือดร้อนมาโพสต์ขอความช่วยเหลือไว้ทางเฟซบุ๊กและกระทู้เว็บไซต์ดัง จากนั้นคนร้ายจะเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ว่าตัวเองก็เคยเดือดร้อน และได้รับความช่วยเหลือจากรายการโหนกระแส ก่อนจะพิมพ์เบอร์โทรศัพท์ไว้ใต้โพสต์ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว น.ส.พัชญ์ธนัน ผู้ต้องหาที่ 1 จะอ้างว่า ชื่อ “ฟ้า” เป็นเลขาฯ ของหนุ่ม กรรชัย พร้อมให้แอดไลน์ปลอมไปสอบถามเรื่องราวความเดือดร้อนของผู้เสียหาย ก่อนจะเรียกค่าดำเนินการมาออกรายการโหนกระแส รายละ 35,000 บาท โดยจะพูดจาหว่านล้อมจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีของ น.ส.สุวรรณณา ผู้ต้องหาที่ 2 แต่สุดท้ายกลับไม่ได้นำผู้เสียหาย หรือเรื่องราวความเดือดร้อนของผู้เสียหายไปออกรายการ
เมื่อตรวจสอบยังพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ได้รู้จัก หรือเกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งพบมูลค่าความเสียหายรวมหลักแสนบาท พอได้ตรวจสอบบัญชี น.ส.สุวรรณณา ผู้ต้องหาที่ 2 พบเงินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด 353,273 บาท ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด
สอบสวน น.ส.พัชญ์ธนัน ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพ ขณะที่ น.ส.สุวรรณณา ผู้ต้องหาที่ 2 ที่เป็นบัญชีม้ารับโอนเงินอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.พัชญ์ธนัน จริง และ น.ส.พัชญ์ธนัน อ้างว่าทำธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ต้องการหลบเลี่ยงภาษี จึงขอยืมบัญชีไปใช้รับโอนเงินเท่านั้น เบื้องต้นตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดี