หนุ่มการไฟฟ้าฯ ชวนพี่สาวออทิสติกลาโลก จอดเก๋งในวัด รมควันดับคู่

หนุ่มการไฟฟ้า

หนุ่มการไฟฟ้าฯ ชวนพี่สาวออทิสติกลาโลก จอดเก๋งในวัด รมควันดับคู่

หนุ่มการไฟฟ้า

โคตรเศร้า หนุ่มการไฟฟ้าฯ พร้อมพี่สาวที่ป่วยออทิสติก ขับเก๋งมาจอดในวัดหนองไผ่ กลางเมืองโคราช ก่อนตั้งเตาอั้งโล่จุดไฟเผาถ่านรมควันฆ่าตัวตาย กลายเป็นศพทั้งคู่ พบผู้ตายมีอาการป่วยซึมเศร้า และเครียดจากหมายศาลในคดีขับรถชนคนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 เวลา 21.00 น. พ.ต.ต.ปฐมพงษ์ โหรารัมย์ สว.สอบสวน สภ.โพธิ์กลาง ได้รับแจ้งมีผู้พบศพผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ จำนวน 2 ศพ ภายในวัดหนองไผ่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมตตานครราชสีมา พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ขม 9020 นครราชสีมา จอดสตาร์ตเครื่องที่บริเวณใกล้กับศาลาการเปรียญของวัด ภายในพบศพผู้ชาย 1 คน นั่งเสียชีวิตอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับ และอีก 1 คน นั่งเอนตัวเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ทราบชื่อภายหลังคือ นายยศธวัช ค้าสบาย อายุ 40 ปี เป็นนายช่างไฟฟ้าของการไฟฟ้าภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา และนางสาวยุวนิดา ค้าสบาย อายุ 42 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน และจากการตรวจสอบภายในรถของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่บริเวณผ้ายางรองพื้นด้านเบาะหลังที่นั่งข้างคนขับ พบเตาอั้งโล่สภาพใหม่ จำนวน 1 เตา ถ่านหุงต้ม จำนวน 1 ถุง น้ำมันพืช จำนวน 1 ขวด กระดาษชำระ จำนวน 1 ม้วน และมีร่องรอยการจุดไฟและขี้เถ้าถ่าน คาดว่าทั้งสองคนน่าจะเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจมาประมาณ 4 ชั่วโมง สาเหตุเกิดจากการจุดไฟเตาอั้งโล่รมควันภายในรถ

หนุ่มการไฟฟ้า

จากการสอบถามนายจิระเดช พุดทะเล ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 2 ต.โพธิ์กลาง กล่าวว่า ก่อนจะพบศพทั้งสอง มีพระภายในวัดเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาจอดที่บริเวณเกิดเหตุ เมื่อช่วงประมาณ 13.42 น. วันเดียวกัน และผู้ชายได้เปิดประตูออกมาโทรศัพท์ และไปเข้าห้องน้ำและสตาร์ตรถทิ้งไว้ จากนั้นก็หายเข้าไปในรถยนต์ จนถึงเวลา 21.00 น. พระในวัดจะมาปิดประตูทางเข้าวัด แต่ยังเห็นรถเก๋งสตาร์ตรถไว้อยู่ จึงได้ใช้ไฟฉายส่องและเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ จึงได้โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมามาตรวจสอบดังกล่าว

หนุ่มการไฟฟ้า

ขณะที่พระนราธิ พระลูกวัด เล่าเหตุการณ์ว่า เห็นโยมขับรถยนต์เข้ามาจอดภายในวัด คิดว่าโยมมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งปกติแล้วก็จะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านแวะเข้ามาเป็นประจำ เลยไม่ได้เอะใจอะไร จากนั้นได้มีพัสดุมาส่ง ตนเองจึงเดินมารับพัสดุ และสังเกตเห็นว่าผู้ชายคนที่ขับรถมีอาการร้องไห้ฟูมฟาย กระวนกระวาย มือสองข้างปิดหน้า พร้อมกับหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาดื่ม

ส่วนภรรยา และญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองคนให้การว่า นายยศธวัชมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หลังจากมีหมายจากศาลในคดีขับรถชนคนเสียชีวิต และกำลังอยู่ระหว่างต่อสู้คดี ส่วนนางสาวยุวนิดา พี่สาว ก็เป็นผู้ป่วยออทิสติก โดยก่อนเกิดเหตุ นายยศธวัชได้ไปรับพี่สาวมาจากบ้านใน ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยบอกว่าจะพาไปกินข้าว และชวนแม่มาด้วย แต่แม่ของผู้ตายบอกจะไปทำธุระ จึงไม่ได้มาด้วย จากนั้นนายยศธวัชได้ไปหาซื้อเตาอั้งโล่ ถ่านหุงต้ม น้ำมันพืช และกระดาษชำระ 1 ม้วน และขับรถมาจอดภายในวัดหนองไผ่ และทำการฆ่าตัวเองตายด้วยการจุดไฟรมควันภายในรถ พร้อมพี่สาวที่ป่วยออทิสติกตั้งแต่ช่วงบ่าย จนมีพระมาพบศพช่วง 21.00 น. วันเดียวกัน

คาดสาเหตุเกิดจากความเครียดจากการต่อสู้คดีขับรถชนคนเสียชีวิต และมีอาการป่วยซึมเศร้า โดยมีประวัติรับการรักษาที่ รพ.จิตเวชราชนครินทร์นครราชสีมา ส่วนภรรยานายยศธวัชยังทำใจไม่ได้ เอาแต่ร้องไห้เสียใจอยู่ภายในรถเก๋ง ไม่กล้าไปดูศพสามีและพี่สาว

ที่มา : ไทยรัฐ