สลด สาวขับเก๋ง เสยท้ายจยย. แล้วหนีไปชนจักรยานดับ1 เป่าเมาพุ่งปรี๊ด
สลด สาวขับเก๋ง เสยท้ายจักรยานยนต์บาดเจ็บ แล้วหนีไปพุ่งชนจักรยาน นักปั่นเสียชีวิต ด้าน ตำรวจตามจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พุ่งสูง 165 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.2566 ร.ต.อ.ไพศาล สุธาพจน์ รองสารวัตร(สอบสวน) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนจักรยานมีผู้เสียชีวิต บริเวณแยกผังเมือง ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางแยก พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน 5กษ1177 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับ กระจกหน้าด้านซ้ายแตก ภายในรถพบคนขับชื่อ น.ส.ภัทรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี โดยมี นายณัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ขับจักรยานยนต์ตามมาชี้บอกให้ตำรวจจับกุมตัวไว้
จากการสอบถาม นายณัฐพงษ์ ให้การว่า ขับจักรยานยนต์มาจากย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา เพื่อจะไปหาเพื่อนที่ร้านอาหารย่านถนนรัชดาฯ เมื่อขับมาถึงเชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่ ถนนพระราม 9 ได้มีรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ ขับมาด้วยความเร็วสูง ลักษณะส่ายไปส่ายมาคล้ายคนเมา และเฉี่ยวชนรถตนด้านหลังจนล้ม ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
นายณัฐพงษ์ ให้การต่อว่า เมื่อตั้งสติได้จึงยกรถขึ้นมาแล้วขี่ไล่ตาม ระหว่างทางรถเก๋งคันดังกล่าวยังขับเฉี่ยวชนคนขี่จักรยานปั่นที่อยู่เชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่จนเสียชีวิต ก่อนขับหลบหนีมาติดสัญญาณไฟแดง ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ กระทั่งตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุย้อนไปเชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่ ห่างจากแยกผังเมืองประมาณ 800 เมตร ช่องทางซ้ายสุดพบศพ นายศักดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ตามร่างกายแขนขาหักผิดรูป จากการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบเสื้อผ้าชุดออกกำลังกาย 1 ชุด ใกล้กันพบรถจักรยานปั่นล้มคว่ำอยู่ในสภาพพังยับ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน น.ส.ภัทรา ให้การเบื้องต้นว่า ทำงานอยู่ที่สถานบริการย่านพระราม 9 กำลังจะกลับที่พักย่านถนนรัชดาฯ ยอมรับว่าได้ดื่มมานิดหน่อย และไม่รู้ว่ารถไปเฉี่ยวชนอะไรบ้างเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้เป่า ผลปรากฏว่าค่าแอลกอฮอล์สูง 165 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหา “เมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป