สลด ผัวเมียหนุ่มสาวรถชนดับ ตั้งโลงสวดคู่ ทิ้งลูก 2 คนเป็นกำพร้า

สลด

สลด ผัวเมียหนุ่มสาวรถชนดับ ตั้งโลงสวดคู่ ทิ้งลูก 2 คนเป็นกำพร้า

สลด

ผัวเมียหนุ่มสาววัยรุ่นสร้างตัว ได้งานเป็นพนักงานบริษัท ขี่จยย.ไปทำงานถูกรถยนต์ชนดับ ญาติตั้งโลงศพคู่ ลูกยังเล็ก 2 คนต้องอยู่กับย่าและอา วันที่ 4 พ.ค. 67 ที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 14 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ญาติพี่น้องในครอบครัวหยาดผักแว่น ต้องจัดงานศพคู่สามีภรรยาหนุ่มสาว คือนายวีรพงศ์ หยาดผักแว่น อายุ 28 ปี และ นางสาวศิริพร หยาดผักแว่น อายุ 27 ปี ขึ้นพร้อมกัน 2 ศพ หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเข้ากับรถยนต์กลางสี่แยกปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  ทิ้งลูกสาวและลูกชายวัย 8 ปี และ 4 ปี ให้อยู่กับย่าและอาสาว โดยที่ไม่มีวันจะได้พบหน้าลูกอีกต่อไปแล้ว สร้างความหดหู่ใจให้กับญาติสนิทมิตรสหาย และเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ ที่บ้านซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของทั้งสอง มีบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนๆ หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเดินทางมาเคารพศพ แสดงความเสียใจกับครอบครัวนี้กันอย่างต่อเนื่อง  และทุกคนต่างรู้สึกสลดใจหดหู่ใจกับภาพงานศพที่ตั้งศพเอาไว้คู่กัน มีป้ายไวนิลไว้อาลัยที่เป็นรูปคู่ของทั้งสองคนที่อยู่ในโทนสีขาวดำ

นางละไม หยาดผักแว่น อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายวีรพงศ์ บอกว่า ลูกชายและลูกสะใภ้ แต่งงานอยู่กินกันมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยแต่งกันมาได้ประมาณ 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นลูกสาว วัย 8 ขวบ ส่วนคนเล็ก เป็นผู้ชาย วัย 4 ขวบ ทั้งสองรักกันมากแม้ว่าจะมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็เป็นตามประสาสามีภรรยาวัยรุ่นทั่วไป แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงหรือถึงขั้นลงไม้ลงมือ ทั้งสองเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของญาติพี่น้องและคนรอบข้าง ขยันขันแข็ง ทำมาหากินตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว ก่อนที่จะได้บรรจุเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งย่านชานเมืองนครราชสีมา ได้ประมาณ 1 ปีเศษ ซึ่งหลังจากได้งานทั้งสองก็ต้องเดินทางจากตำบลครบุรีใต้ ไปที่ทำงานทุกวัน วันละเกือบ 50 กิโลเมตร โดยตนเป็นคนดูแลหลานทั้งสองที่บ้าน วันหยุดทั้งสองสามีภรรยาก็จะอยู่กับลูกๆ พาไปเที่ยวเล่นตามประสาพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

“เช้าวันเกิดเหตุทั้งสองขับรถออกจากบ้านไปทำงานปกติโดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ กระทั่งไปประสบเหตุจนเสียชีวิต ตัวเองเมื่อทราบข่าวถึงกับเข่าทรุด ทำอะไรไม่ถูก ยอมรับว่ามาถึงตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจมากไม่ว่าจะเป็นลูกชาย รวมถึงลูกสะใภ้ ที่ก็รักเหมือนกับลูกแท้ๆ จึงบอกกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงว่าอยากให้จัดงานศพทั้งคู่ที่เดียวกัน ไม่อยากให้ทั้งคู่แยกจากกันไปไหน เพราะสองคนนี้รักกันมาก” นางละไม บอกอีกว่า แม้ว่าทั้งสองจะจากไปแล้ว แต่ก็ยังมีหลานอีก 2 คน ซึ่งตัวเองก็จะดูแลเป็นอย่างดีเหมือนกับที่เคยเลี้ยงลูกตัวเองมา แม้ว่าจะต้องลำบากเพียงใดก็ตาม ส่วนในเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยังไม่มีกะจิตกะใจไปสืบสาวราวเรื่อง แต่เมื่อวานนี้หลังจากเกิดเหตุ คู่กรณีซึ่งเป็นหญิงพร้อมสามีชาวต่างชาติที่เป็นคนขับรถ ได้เดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยแล้ว และบอกว่าจะขอมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพให้ 1 คืน และมอบเงินช่วยค่าจัดงานมาส่วนหนึ่งด้วย  ส่วนงานฌาปนกิจ ทางครอบครัวยืนยันว่าจะเผาทั้งคู่ในวันเดียวกัน คือในวันที่จันทร์ที่ 6 พ.ค.67 นี้ โดยในช่วงเช้าจะทำการฌาปนกิจนายวีรพงศ์ก่อน จากนั้นเป็นงานฌาปนกิจ นางสาวศิริพร ผู้เป็นภรรยา ที่วัดซับก้านเหลือง ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา