สงกรานต์สลด ลูกชายฆ่าพ่อ ลากศพจากบ้านใส่ซาเล้ง ไปฝังอำพรางในหลุมเผาถ่าน
สงกรานต์สลด ลูกฆ่าพ่อ ลากศพจากบ้านใส่ซาเล้ง ไปฝังอำพรางในหลุมเผาถ่าน เผยปมเหตุทะเลาะกันรุนแรง ชาวบ้านบอกลูกเป็นคนอารมณ์ร้อน
เมื่อกลางดึกวันที่ 15 เม.ย.67 ร.ต.อ.ยุทธศาสตร์ เย็นวัฒนา พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ภายในบ้านพัก ต.บัวมาศ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จึงประสานหน่วยกู้ภัยประจิมบรบือ แพทย์เวรโรงพยาบาลบรบือ เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน และพ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผกก.สภ.บรบือ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดอยู่หลังบ้าน และห้องโถงของบ้าน แต่ไม่พบใคร เจ้าหน้าที่ออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บ กระทั่งพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณกระท่อมนาข้างวัดป่าหนองตุ ทราบชื่อนายไหว อายุ 76 ปี ศพถูกฝังอำพราง ในหลุมเผาถ่าน ถูกดินฝังกลบใหม่ๆ มีสังกะสีปิดทับ และด้านบนมีถ่านทับอยู่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ขุดศพขึ้นมา ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะ แขนหัก และมีแผลพุพองบริเวณต้นขา
พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายมิตร อายุ 46 ปี ลูกชายของผู้ตาย โดยเจ้าหน้าที่ติดตามไปพบตัวที่บริเวณหนองน้ำท้ายหมู่บ้านพบว่ากำลังล้างตัว ล้างคราบเลือดอยู่ ก่อนจะสอบถามว่ามาทำอะไร โดยนายมิตรอ้างามาหาปลา และปฏิเสธไม่เห็นพ่อ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บรบือ ก่อนนายมิตรจะรับสารภาพว่าเป็นฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง เนื่องจากเมาสุราและทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง
ก่อนหน้านั้นนายมิตรจะเข้าบ้านมาเอายาให้น้องชายที่ป่วยเป็นลมชักกิน แต่พ่อบอกว่าให้ยาน้องไปแล้ว จากนั้นเกิดมีปากเสียงกัน นายมิตรใช้ไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะ และตีพ่ออีกหลายครั้งจนแขนหัก กระทั่งพ่อเสียชีวิต ก่อนนำศพใส่รถซาเล้ง นำไปฝังอำพรางที่หลุมถ่าน บริเวณกระท่อมนาของนายมิตรที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร โดยนำศพฝังลงในหลุมและใช้ดินกลบ นำสังกะสีมาวางไว้ข้างบน นำถ่านเทใส่และจุดไฟเผา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านสามารถจับภาพขณะที่นายมิตรนำศพพ่อไปทิ้งอำพรางได้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายสุวรรณ มะลาเชค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 เล่าว่า นายมิตร มีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีคนจ้างก็ไปไม่มีคนจ้างก็ไปอยู่ที่กระท่อมนาแถววัดป่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ที่ผ่านมานายมิตรทะเลาะกับพ่อตลอด เพราะมีน้องชายที่ร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์ต้องกินยา วันเกิดเหตุนายมิตรจะมาป้อนยาน้อง แต่พ่อบอกว่าป้อนยาแล้ว จึงเกิดทะเลาะกัน ซึ่งนายมิตรมากับเมีย เมียก็ถูกซ้อมตลอด แต่ทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันได้
“เรื่องที่ฆ่าพ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่มีแรงกดดัน เพราะเคยบอกว่าพ่อคนนี้ไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ปลอมตัวมา ทั้งๆ ที่เป็นพ่อจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจ ที่ผ่านมาเคยมีคดีพยายามฆ่า และเคยติดคุกมาแล้ว ส่วนเรื่องเสพยาเคยไปตรวจแล้ว แต่ก็ไม่เจอ”นายสุวรรณกล่าว หลังเกิดเหตุเพื่อนบ้านมาแจ้งว่าได้ยินเสียงตีกันอยู่ 4-5 ครั้ง จึงแจ้งตนให้เข้าไปดูพบว่ามีรอยเลือดกับรอยลากออกมาจากบ้าน ที่ผ่านมาตอนนายมิตรเมาก็จะทะเลาะกันเป็นประจำ รวมถึงคนรอบข้างด้วยคนแถวบ้านก็หลีกหนีให้ห่าง ไม่มีใครอยากที่จะปะทะด้วย
ด้านญาติเล่าว่า ที่ผ่านมานายมิตรเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อนและมีปากเสียงกับชาวบ้านอยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านไม่อยากจะคบค้าสมาคมด้วย บ้านหลังนี้มีพ่ออยู่กับน้องชายคนสุดท้อง ซึ่งมีอาการป่วยด้วยโรคลมชัก ต้องรับประทานยาอยู่ต่อเนื่อง ที่ผ่านมานายมิตรและพ่อมีปากเสียงกันเป็นประจำและเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นลงมือลงไม้กัน ซึ่งบางครั้งก็มี เพื่อนบ้านมาช่วยห้ามปราม ในระยะหลัง การทะเลาะ และลงมือทำร้ายร่างกายกันบ่อยขึ้น และเคยได้ยินนายมิตรพูดกับพ่อว่า จะนอนในโลงหรือจะนอนในหลุม
จากนั้นเวลา 15.00 น. ชุดสืบสวนนำตัวนายมิตร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งใช้ตั้งศพของนายไหว ผู้เป็นพ่อ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน รวมกว่า 30 คน คอยกันชาวบ้านไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณจุดทำแผน ซึ่งทันทีที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ นำตัวผู้ต้องหามาถึง ชาวบ้านรวมถึงลูกพี่ลูกน้องของนายมิตรก็ปรี่เข้ามาประชิดตัว ก่อนสาวหมัดใส่นายมิตร เจ้าหน้าที่ได้กันตัวออกไป และนำตัวเข้าไปทำแผนภายในบ้าน โดยให้นายมิตรจุดธูปขอขมาหน้าศพผู้เป็นพ่อและไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่งของชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ นายมิตร กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า ทำไปเพราะบันดาลโทสะ เลยก่อเหตุขึ้น โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าบุพการีและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย โดยใช้เวลาทำแผน 2 จุด คือที่บ้าน และจุดที่นำศพพ่อไปอำพราง ใช้ประมาณ 30 นาที ก่อนนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ กลับไปที่ สภ.บรบือ
ที่มา : ข่าวสด