รวบลุง อดีต ทอ.ขับเก๋งตระเวนลักเงินวัดทั่วเชียงใหม่ อ้างป่วยโรคไต
ชายวัย 54 ปี อดีตทหารยศ พ.อ.อ. ใช้รถเก๋งตระเวนก่อเหตุลักเงินบริจาค ตามวัดใหญ่ มีคนเข้าไปทำบุญจำนวนมากทั้งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน รายได้ดีบางเดือนได้ถึง 140,000 บาท อ้างต้องผ่อนรถและรักษาโรคไต เวลา 09.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผกก.สภ.หางดง, พ.ต.ท.ฐานิษฏ์ นันทาวิศิษฐ์ รอง ผกก., พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ อุ่นเมืองอินทร์ สว.สส. ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาและของกลาง ผู้ต้องหาคือ พ.อ.อ.สุพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี อยู่หมู่ 12 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา อดีตทหารอากาศ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด เจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับกุมอดีตทหารขณะเข้าลักทรัพย์ลักเงินบริจาคที่ในพระวิหารวัดต้นเกว๋น ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมเงินของกลางกว่า 3,000 บาทและเงินต่างประเทศอีกจำนวนมาก พบอยู่ในรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีเทา ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ควบคุมตัวมาที่ สภ.หางดง เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผกก.สภ.หางดง กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากวัดต่างๆ มีโจรเข้าไปขโมยเงินในตู้บริจาคและตามต้นเงิน โดยเฉพาะมีวัดต้นเกว๋น ต.หนองควาย อ.หางดง เป็นวัดเก่าแก่ของเชียงใหม่ เพิ่งถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเงินเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้วางแผนติดตามจับกุม โดยทางวัดนำกล้องวงจรปิดในช่วงที่คนร้ายก่อเหตุให้ดู ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุม โดยคนร้ายคนเดิมได้ขับรถเก๋งย้อนกลับมาที่วัด ขโมยเงิน ตำรวจได้นำเงินที่ถ่ายเอกสารไว้ จากการตรวจค้นภายในรถเก๋งคนร้ายพบเงินจากการโจรกรรมตามวัดต่างๆ มีธนบัตรประเทศต่างๆ จำนวนมาก พร้อมพบจดวันที่ลงมือก่อเหตุ คนร้ายทำมายาวนาน มียอดรายได้ทุกเดือนตั้งแต่เดือนละ 80,000-140,000 บาท โดยเฉพาะในเดือนมกราคม จะได้เงินมากถึง 140,000 บาท โดยคนร้ายรับสารภาพจะก่อเหตุในวัดใหญ่ที่มียอดเงินทำบุญบริจาคจำนวนมากต่อวัน เช่น วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดพระธาตุดอยคำ วัดป่าดาราภิรมย์ วัดบ้านเด่นสะหรี วัดต้นเกว๋น วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน และอีกหลายวัด โดยจะทำทีเข้าไปทำบุญและถือโอกาสขโมยเงิน นำไปผ่อนรถยนต์และรักษาตัวโรคไตขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าที่ก่อเหตุเพื่อนำเงินไปรักษาตัว เนื่องจากป่วยเป็นโรคไต และถูกให้ออกราชการมาหลายปี โดยเป็นทหารอากาศสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยการก่อเหตุแต่ละแห่งจะบันทึกสถานที่และยอดเงินทุกครั้งในปฏิทินในแต่ละวันไว้
ที่มา : ไทยรัฐ