ย้อนรอยมหากาพย์ “ตะวันฉาย vs โจ” ก่อนจะกลายเป็นศึกสายเลือดชิงบัลลังก์

ย้อนรอยมหากาพย์

ย้อนรอยมหากาพย์ “ตะวันฉาย vs โจ” ก่อนจะกลายเป็นศึกสายเลือดชิงบัลลังก์

ย้อนรอยมหากาพย์

ย้อนรอยมหากาพย์การประชันฝีมือของสองสุดยอดนักมวยไทยต่างวัย ระหว่าง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 25 ปี จากชลบุรี และ “โจ ณัฐวุฒิ” นักชกอินดี้ วัย 34 ปี จากเมืองย่าโมโคราช ก่อนจะโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง เพื่อซัดกันให้ทุกคนหายคาใจ โดยมีบัลลังก์มวยไทยของ “ตะวันฉาย” เป็นเดิมพัน ในศึก ONE 167: แสตมป์ vs เดนิส ที่กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี

ย้อนรอยมหากาพย์

จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ “ตะวันฉาย vs โจ” ต้องย้อนกลับไปในเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมา ในศึก ONE Fight Night 15: ธานฮ์ vs อิลยา ซึ่งเดิมที “ตะวันฉาย” มีคิวจะต้องป้องบัลลังก์มวยไทย จาก “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” เจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง เฉพาะกาล รุ่นเดียวกัน แต่ปรากฏว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการแข่งขัน “ซุปเปอร์บอน” ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อม จนต้องถอนตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้

ย้อนรอยมหากาพย์
ตะวันฉาย และ โจ เผชิญหน้าก่อนขึ้นสังเวียน (6 ต.ค.66)

อย่างไรก็ตาม “ตะวันฉาย” ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเคว้งคว้างไร้คู่ชกนานเกินรอ เมื่อ “โจ ณัฐวุฒิ” สุดยอดนักชกมาดอินดี้ ที่ห่างหายจากการขึ้นสังเวียนไปนานถึง 1 ปี 2 เดือน โชว์ความใจกล้า ขันอาสาเข้ามารับบทเป็นมวยแทน ชนิดที่มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 2 สัปดาห์ พร้อมเปลี่ยนจากกติกามวยไทยมาเป็นกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต แทนเพื่อความเหมาะสม

การประจันหน้าของทั้งคู่สร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย เนื่องจาก “โจ” นั้นถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกติกาคิกบ็อกซิ่ง รวมทั้งเคยผ่านประมือกับนักชกคิกบ็อกซิ่งระดับแถวหน้าของโลกมาแล้วใน ONE ซึ่งต่างจาก “ตะวันฉาย” ที่ได้ชื่อว่ายังอ่อนประสบการณ์ในกีฬานี้ โดยต่างฝ่ายต่างต้องการพิสูจน์ฝีมือว่าคู่ควรในการเป็นตัวท็อปของรุ่นนี้

รูปเกมในวันแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดตั้งแต่เสียงระฆังยกแรกดัง ต่างผลัดกันรุกรับ แลกอาวุธแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยต่างฝ่ายต่างได้ลิ้มรสชาติอาวุธหนักของกันและกันไปไม่น้อยตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนสุดท้ายจะเป็น “ตะวันฉาย” ที่ขึ้นชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งที่สองของชีวิต เป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์

ย้อนรอยมหากาพย์

สำหรับทางฝั่ง “โจ” แม้จะตกเป็นผู้แพ้ แต่ด้วยฟอร์มการชกระดับเทพที่สามารถต่อกรกับนักชกฟอร์มแรงอย่าง “ตะวันฉาย” ได้แบบสนุก ทั้งที่มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทำให้เจ้าตัวได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนมวยทั่วโลกอย่างล้นหลาม รวมถึงยังมีกระแสเรียกร้องตามมาอีกไม่น้อยที่ต้องการเห็น “โจ” ได้โอกาสรีแมตช์กับ “ตะวันฉาย” อีกครั้ง เพื่อวัดฝีมือกันให้รู้ดำรู้แดง

จนกระทั่งล่าสุด แฟนมวยทั้งโลกได้เฮกันสนั่น เมื่อทั้งคู่จะได้โคจรมาเปิดศึกภาคสองกันอีกครั้งในศึก ONE 167: แสตมป์ vs เดนิส ในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 ซึ่งคราวนี้รับประกันว่าจะต้องดุเดือดขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะ “ตะวันฉาย” จะต้องวางเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ของตัวเองเป็นเดิมพัน ขณะที่ “โจ” นี่คือการได้รับโอกาสให้ขึ้นชิงบัลลังก์ครั้งแรกของเขานับตั้งแต่เข้ามาสู้ใน ONE เมื่อปี 2561

ย้อนรอยมหากาพย์
ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน (22 ธ.ค.66)

โดยผลงานล่าสุดของ “ตะวันฉาย” สามารถรักษาเข็มขัดมวยไทย เอาไว้ได้เป็นครั้งที่สอง ด้วยการเอาชนะคะแนนเสียงข้างมาก “ซุปเปอร์บอน” ในศึก ONE ลุมพินี 46: ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ “โจ” สามารถเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ลุค ลิสซีย์” คู่ชกจากสหรัฐอเมริกา มาได้แบบสุดเดือด ในกติกามวยไทย ในศึก ONE Fight Night 17: โรมัน vs อเล็กซ์ เดือนเดียวกัน จนสามารถขยับขึ้นไปยึดเก้าอี้เบอร์ 3 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้สำเร็จ

ย้อนรอยมหากาพย์
โจ vs ลุค (9 ธ.ค.66)

การเปิดศึกภาคสอง ระหว่าง “ตะวันฉาย” และ “โจ” ในครั้งนี้ จะแตกต่างออกไปจากภาคแรกอย่างแน่นอน เนื่องจาก “ตะวันฉาย” จะได้กลับมาสู้ในกติกาที่คุ้นชินอีกครั้ง ขณะที่ “โจ” ได้ระยะเวลาการเตรียมตัวฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถขึ้นสังเวียนในเวอร์ชันที่สมบูรณ์กว่าภาคแรก โดยบทสรุปของมหากาพย์ “ตะวันฉาย vs โจ” เข็มขัดแชมป์โลกจะเปลี่ยนมือหรือไม่ แฟนมวยทั่วประเทศร่วมลุ้นไปพร้อมกันในศึก ONE 167: แสตมป์ vs เดนิส วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้

ติดตาม “ตะวันฉาย vs โจ” ศึก ONE 167: แสตมป์ vs เดนิส ถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้