พ่อแม่ช็อก กลับถึงบ้านพบ ข้าราชการหนุ่ม ดับสลด ทิ้งไดอารี่ไว้ 4 หน้า

พ่อแม่ช็อก กลับถึงบ้านพบ ข้าราชการหนุ่ม ดับสลด ทิ้งไดอารี่ไว้ 4 หน้า

พ่อแม่ช็อก

พ่อแม่สุดช็อก กลับมาบ้านพบ ข้าราชการหนุ่ม ดับสลดในห้องน้ำ ทิ้งไดอารี่ถึงครอบครัว 4 หน้า ตำรวจเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ วันที่ 29 มี.ค.2567 พ.ต.ต.ชิตพงษ์ ช่างประดิษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง และแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในห้องน้ำชั้นล่างพบศพ นายสรณ์ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี รับราชการตำแหน่งนักพัฒนาการกีฬาปฏิบัติการ ใกล้กันพบเตาอั้งโล่ ในห้องน้ำถูกปิดไม่ให้มีอากาศเข้า นอกจากนี้ พบจดหมายจำนวน 4 แผ่น เขียนลงวันที่ 27 มี.ค.67 หัวข้อ “goodbye”

สรุปข้อความว่า “สวัสดีทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกไดอารี่ฉบับนี้ อธิบายว่าตนเองเป็นคนประเภทอะไรก็ได้ไปซะทุกเรื่อง กินอะไรก็ได้ เที่ยวที่ไหนก็ได้ ให้ช่วยอะไรก็ได้ บางทีเหนื่อยกายนะครับ แต่ไม่เคยเหนื่อยใจ 55 เนื่องจากด้วยความอะไรก็ได้ของผม ทำให้อาจจะไม่เป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิตเยอะนักหรือเป้าหมายที่ชัดเจน

จนทำให้บางคนคิดว่าเราจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ได้ ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแบบนี้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมามีคน support ผมเยอะมากถ้าให้เขียนจริง ๆ ก็คงไม่หมด ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ” นอกจากนี้ ในจดหมายยังขอบคุณแม่ที่เลี้ยงมาจนโตขนาดนี้ พร้อมกับบอกรักและขอให้มีสุขภาพแข็งแรง เป็นห่วงสุขภาพ

จากการสอบถาม พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า กลับมาบ้านเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. พบว่าบ้านล็อกประตูไว้ แม่เขาก็เลยงัดประตูเข้าไป บ้านหลังนี้ปกติลูกชายอยู่คนเดียว เพราะตนต้องไปดูแลพ่อและพี่สาวที่พึ่งผ่าตัดอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี

พ่อ กล่าวต่อว่า เพิ่งกลับมาบ้านโทรหาลูกชายก็โทรไม่ติด เมื่อเข้าไปในบ้านพบว่าห้องน้ำมีการเอาสติ๊กเกอร์ปิดไว้ ทั้งด้านในและด้านนอก แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าลูกยังอยู่ยังช่วยทัน จึงบอกให้สามีงัดประตูห้องน้ำเข้าไป เอามีดมางัดประตูเข้าไปก็พบอย่างที่เห็น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งสอบปากคำคนในครอบครัว ก่อนมอบร่างให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ก่อนที่จะมอบให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนา

ที่มา : มติชน