พิสูจน์ด้วยกำปั้น “เบ็คแฮม” ขอฝ่าทุกคำดูถูก ตั้งเป้าลุย ONE ระดับโลก
“เบ็คแฮม” นักมวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ขอใช้โอกาสชกมวยสามยกที่ถนัด เปิดตัวให้ประทับใจ พร้อมตั้งเป้าแน่วแน่พาตัวเองไปลุยศึก ONE ใหญ่ให้ได้
“พยัคฆ์สองแผ่นดิน” เบ็คแฮม บิ๊กวิน แชมเปียนยิม มวยใจสู้ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จากบุรีรัมย์ ที่เพิ่งอายุครบ 27 ปี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ฤกษ์เปิดตัวเจอคู่ชกแกร่งจากบัลแกเรีย “แอนตัน เพโทรฟ” วัย 23 ปี ที่ประเดิมชัยสวยด้วยการน็อกเอาต์ในไฟต์แรกมาได้ โดยจะวัดพลังกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต (160 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 23 วันศุกร์ที่ 30 มิ.ย.นี้
“เบ็คแฮม” ลืมตาดูโลกที่ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ มีแม่เป็นคนไทยและพ่อเป็นคนญี่ปุ่น อาศัยอยู่กับตาและยาย เริ่มชกมวยตอนอายุ 12 ปี ตามคำชักชวนของคุณลุงแถวบ้าน ผู้ซึ่งตั้งสมญานามให้เขาตั้งแต่ไฟต์แรกว่า “เบ็คแฮม” ตามชื่อของนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่กำลังโด่งดังสุด ๆ ในเวลานั้น เนื่องจากหน้าตาและผิวพรรณของเขากระเดียดไปทางฝรั่งตาน้ำข้าวเสียมากกว่า
จากนั้น “เบ็คแฮม” ได้เดินสายชกสั่งสมกระดูกมวยต่อเนื่องจนถึงอายุ 15 ปี จนกระทั่งมีชื่อเสียงระดับหนึ่งในบ้านเกิด แต่หลังจบชั้นมัธยม 3 “เบ็คแฮม” ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแม่ที่ทำงานอยู่ใน จ.ภูเก็ต ก่อนจะค่อย ๆ ห่างหายไปจากสังเวียน
จนกระทั่งช่วงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 ค่าใช้จ่ายทางบ้านเพิ่มมากขึ้น “เบ็คแฮม” จึงเริ่มหาลู่ทางกลับมาชกมวยเพื่อหารายได้ จนมีโอกาสเข้าไปอยู่ในค่ายสิงห์ป่าตอง คายมวยดังแห่งเกาะภูเก็ต
แต่ชีวิตก็ไม่ได้ง่ายดั่งใจคิด เมื่อทำผลงานไม่ดีในการขึ้นมาชกที่กรุงเทพฯ ทำให้ต้องวนเวียนสลับกลับไปทำฟอร์มชกที่ภูเก็ตอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งในปี 2562 ได้เจอจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อได้ขึ้นชกสามยกในรายการมวยจอตู้ช่อง 8 และสามารถทำผลงานชนะรวดได้ถึง 16 ไฟต์ กลายเป็นนักมวยที่ถูกจับตามองทันที
ในปี 2565 “เบ็คแฮม” ขึ้นสู่จุดพีค สามารถกวาดทั้งแชมป์มวยรอบรุ่น 72 กก. และแชมป์ WBC มวยไทย รุ่นมิดเดิลเวต 160 ป. ก่อนมาเจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตอีกครั้ง เมื่อถูกทาบทามให้ย้ายไปอยู่ที่ค่ายบัญชาเมฆ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำให้ได้เจอกับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยไทยระดับตำนานมาถึงตอนนี้ โอกาสสำคัญลอยมาตรงหน้า “เบ็คแฮม” อีกครั้งโดยจะได้ปรากฏตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าจะสามารถปรับสไตล์การชกให้เข้ากับรูปแบบของรายการไม่ยาก แม้จะยอมรับว่าอาจเสียเปรียบคู่ชก “แอนตัน” ในเรื่องช่วงชกและประสบการณ์อยู่บ้าง แต่พร้อมทำหน้าที่สู้ไปตามเกม เพื่อเดินหน้าทำตามฝันสร้างโอกาสเข้าไปโชว์ฝีมือใน ONE รายการใหญ่ให้ได้
นอกจากอยากทำผลงานในสังเวียนให้ดีแล้ว อีกหนึ่งปมในใจที่ “เบ็คแฮม” ต้องการปลดล็อกตลอดมาคือการลบคำสบประมาทของคนรอบกายที่มักไม่เชื่อในฝีมือของเขาและมองว่าคงไปไม่ได้ไกลในเส้นทางนี้ โดยเจ้าตัวยืนยันขอทำเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตนก็มีดีไม่แพ้ใคร เพราะถ้าไม่แน่จริงคงไม่มีวันมายืนอยู่ในตรงจุดนี้ได้แน่