พิธีกรสาวเปิดแผลโชว์ คลินิกทำหน้าไหม้ เจ็บเหมือนเตารีดนาบ คำอ้าง พนง.ฟังไม่ขึ้น
พิธีกรสาวเปิดแผลโชว์ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์อุทาหรณ์เข้าคลินิกเสริมความงาม กลายเป็นบทเรียนราคาแพง พนง.ใหม่อ้างปรับเครื่องผิด ทำเกิดรอยไหม้ทั้งหน้า เจ็บปวดทรมาน แถมกระทบทั้งงาน ทั้งการใช้ชีวิต
โดยระบุว่า อุทาหรณ์ บทเรียนราคาแพงของการใช้บริการคลินิกเสริมความงาม เผื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ทุกคนเลือกให้ดีก่อนเข้าคลินิกต่าง ๆ วันนี้เอมจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ เห็นภาพก็คงจะตกใจ ที่หน้าเป็นแบบนี้ เอมจะเล่ายาว ๆ ไปเลย
วันที่ 3 กันยา 66 ไปกดสิวที่คลินิกในห้างแถวบ้าน ตามปกติ กดเสร็จก็จะเลเซอร์ cellex ต่อ ทำเลเซอร์ที่คลินิกนี้ ตัวเบสิก จะเป็นพนักงานทำ ไม่ใช่แพทย์ Shot แรก รู้สึกร้อนมาก พนักงานปรับให้ เราก็ยังร้อนอยู่แต่ก็คิดว่าคงร้อนแบบนี้แหละเลยทน ทำเสร็จ ความร้อน ไม่หายไป แสบร้อนผ่าวทั้งหน้า เอมเริ่มโวยวาย เพราะมันทรมานมากค่ะ อาการอย่างนี้ ไม่ปกติแล้ว ปกติเอมเป็นสายอึดทนมาก
พนักงานเอายาสเตียรอยด์มาให้กิน เราก็ไม่กิน เพราะไม่ใช่หมอสั่ง เอายาสเตียรอยด์มาทา แต่ไม่มีการเอาน้ำแข็ง หรืออะไรมาพัดเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน เรียกได้ว่าการปฐมพยาบาลที่ควรจะเกิด ก็หลังจากโทรคุยกับหมอ เอมต้องพ่นลมเย็นประมาณครึ่งชั่วโมง ความแสบก็ไม่หายค่ะ รอยไหม้เริ่มขึ้นเป็นแถบ ระหว่างทำ
พนักงานคนทำก็ขอโทษขอโพยตลอด เราไม่พูดอะไรทั้งนั้น ตอนนั้นคือโกรธมาก เขาบอกว่าเขาเพิ่งย้ายมา แล้วที่เก่าตั้งค่าคนละแบบกัน ได้ยินก็แบบ มันใช่เหรอ จะเครื่องที่ไหน ก็ต้องรู้วิธีและดูค่าก่อนทำไหม
ออกจากคลินิกปุ๊ป ไปแจ้งความจดบันทึกไว้ทันที ความแสบร้อนคือลากยาวจากทุ่มถึงเที่ยงคืน วันที่ 4 ส่งข้อความให้ทางคลินิกว่าเกิดอะไรขึ้น และคลินิก ต้องชดใช้อย่างไรบ้าง และไปหาหมออีกที่เพื่อรักษาทันที คลินิกต้นเรื่องบอกว่าจะรักษาให้หาย แต่เข็ดอ่ะ บอกเลยว่าไม่ไปเหยียบอีก
วันที่ 5 ทนายทางคลินิกโทรติดต่อมา ว่าจากเหตุการณ์ คลินิกผิดจริง จะชดใช้ให้ ขอเราส่งรายละเอียด ค่าใช้จ่ายไป จนปัจจุบันที่ตัดสินใจมาเล่า คือวันที่ 22 เหตุการณ์ผ่านมา 20 วัน เอมไม่ได้อะไรจากคลินิกเลย คำขอโทษ ช่อดอกไม้จากผู้บริหารก็ไม่มี ขอโทษคือมาจากหมอที่พนักงานโทรคุยวันเกิดเหตุ และจากตัวคนทำพลาด
เงินที่เอมจ่ายเพื่อรักษาหน้าตัวเอง จนวันนี้ 32,122 บาท ไม่มีการจ่ายให้ แถมเรียกร้องให้ชี้แจงเอกสารต่างๆ มากมาย เอมรักษาแบบจัดเต็มเลยนะคะ เพราะเอมต้องใช้หน้าตาทำงาน เป็นพิธีกรรายการ เอมก็อยากให้มันหายเร็วๆ งานมันจะได้เดิน เราจะได้ไม่เสียเครดิตกับทางสถานี เราก็ไม่อยากยืดเยื้อ อยากให้เรื่องมันจบเร็ว ไม่ต้องใหญ่โต ก็ไม่ได้โพสอะไร
แต่ผ่านมาจะเดือน ยังไม่ได้อะไร และคลินิก ทำกับเราเหมือนเราเป็นคนผิดที่จะไปเอาเงินจากเค้า เราก็ไม่ไหว คือ ความเจ็บ เหมือนเอาเตารีดนาบหน้านั้น คือ คุณทำนะ การที่เอมต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก ตื่นมาเห็นหน้าตัวเอง ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือ โพกหน้าปิดทั้งหมดเพื่อกันแสง อยู่ในที่ร่มก็ต้องปิด ไปไหนคนก็ถาม มองหน้าเราแบบสงสาร
คือ มันหนักหนาอยู่นะคะ ตอนนี้ก็เครียด จนคิดว่าจิตแพทย์ต้องเข้าแล้วหรือเปล่า คือมันไม่สบายใจเลย เอมจองทริปดำน้ำที่อยากไปมาก ๆ แต่แพทย์ไม่ให้ไปเพราะสะเก็ดหลุดมาแล้วหน้าด่างเลยค่ะ ถ้าโดนแดดมันจะดำ จะด่างนาน เอมก็ต้องทิ้งทริปนี้ไปเลย
ก็ได้แต่หวังว่าเรื่องจะจบเร็วนะคะ อยากทำงาน แต่ถ้าทางคลินิกยังเป็นแบบนี้ เรียกร้องทั้ง ๆ ที่ตัวเองต้องชดใช้ สงสัยต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมแล้ว เราดีด้วย แต่ทำอย่างนี้กับเรามันไม่ดีเลย เลยอยากจะเตือนทุกคนนะคะ เลือกคลินิกดีดี เอาที่แพทย์เป็นคนรักษา อย่าให้ใครต้องเจอแบบนี้อีก
ถ้าต้องเรื่องใหญ่ ก็ขอเป็นตัวแทนให้คนที่โดนแบบนี้แต่ไม่มีกำลังสู้ด้วยเลยละกันค่ะ จะสู้ให้ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ และสื่อต่าง ๆ ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงนะคะ เมื่อวานกระแสโซเชียลฯ รวดเร็วมากเลย อย่างที่บอกในโพสนะคะ เรื่องเกิดมา 20 กว่าวัน ตอนนี้ หน้าเอมดีขึ้นมากค่ะ จากการไปรักษาที่คลินิกอื่นเองทุกสัปดาห์
ต้องขออภัยทุกท่าน ที่อยากทราบชื่อคลินิกนะคะ เอมกำลังดำเนินการทางกฎหมายเลยต้องระวัง คลินิกต้นเรื่องตอนแรกเสนอจะรักษาให้ แต่เอมปฏิเสธนะคะ เพราะเอมเข็ดแล้วและคลินิกบอกจะรับผิดชอบชดเชยให้แต่พอเรายื่นเอกสารไปก็ตัดนู่นตัดนี่ออกแบบไม่สมเหตุสมผลนะคะ ดำเนินการช้าเหมือนรอให้เอมหายก่อน และทำให้เอมรู้สึกเหมือนไปขอเงินเขาจริง ๆ เลยต้องสู้ค่ะ
เอมอัพเดทหน้าให้นะคะ ตอนนี้เหลือแต่รอยด่างค่ะ ยังต้องระวังทุกแสงอยู่ค่ะ คุณหมอบอกว่าแต่งหน้าได้เมื่อสะเก็ดหลุด ถ้าถ่ายรายการก็โบกครีมกันแดดเยอะๆ ไปเลย เอมยังไม่ได้ถ่ายรายการนะคะ เดือนตุลาค่อยเริ่มงานค่ะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ