ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า “ชาโด้” พร้อมเฉิดฉายบนเวทีโลก ยกระดับฐานะและทำให้แม่ภูมิใจ

ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า

ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า “ชาโด้” พร้อมเฉิดฉายบนเวทีโลก ยกระดับฐานะและทำให้แม่ภูมิใจ

ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า

“ชาโด้” เผชิญหน้าความท้าทายครั้งสำคัญในอาชีพนักมวย ประเดิมเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี สานฝันเพื่อแม่และครอบครัวยกระดับคุณภาพชีวิต
“เงามืดมรณะ” ชาโด้ สิงห์มาวิน มวยซ้ายยอดกตัญญู วัย 24 ปี จากเมืองตาก ดีกรีแชมป์เวทีมวยราชดำเนิน รุ่น 147 ป. เดินหน้าท้าชนประสบการณ์ใหม่ โดยจะพบกับ “มามูกา อูซูบายัน” นักสู้หมัดคม วัย 30 ปี เจ้าของแชมป์คิกบ็อกซิ่งจากรัสเซีย เพื่อแย่งแต้มชัยแรกกันในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ขึ้นป้ายคู่เอกภาคอินเตอร์ของ ศึก ONE ลุมพินี 52 ที่จะถ่ายทอดสดจากเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.นี้

สำหรับ “ชาโด้” หรือ “นายวีรภัทร ปรีชา” มีชื่อเล่นว่า “เอ็ม” เติบโตมากับแม่และพ่อเลี้ยง โดยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 12 ปี เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางมวยครั้งแรกจากการชักชวนของรุ่นพี่อยู่ที่ค่าย ศ.ธวีศิลป์ หลังจากนั้นก็ตระเวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชกตามเวทีในเขตภูธรเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือแม่และส่งน้องชายอีกสองคนได้เรียนหนังสือ จากนั้นเมื่ออายุ 15 ปี “ชาโด้” ได้โยกย้ายมาอยู่กับค่าย อ.วันเชิด ที่จังหวัดสิงห์บุรี และได้โอกาสขึ้นมาชกที่เมืองหลวงเป็นครั้งแรกจนเริ่มกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยสวนอาหารปีกไม้ ที่จังหวัดสระบุรี นานกว่า 4 ปี ซึ่งเรียกว่าได้ว่าช่วงเวลานั้น “ชาโด้” กำลังไปได้สวยเนื่องจากถูกจับตาในฐานะดาวรุ่งอนาคตไกล แต่เมื่อวิกฤติโควิด-19 มาถึง ชีวิตเกิดพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากนักมวยดาวรุ่งก็กลายเป็นคนว่างงานทันที

ด้วยเส้นทางมวยไม่อาจไปต่อ “ชาโด้” จึงต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด จังหวัดตาก โดยยึดอาชีพเสริมเป็นช่างแอร์เพื่อประคองชีวิตนานเกือบ 2 ปี แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ลืมความฝันอยากเป็นนักมวย โดยยังคงฝึกซ้อมทุกวันเพื่อคงสภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ สุดท้ายเมื่ออายุได้ 22 ปี เขาได้คำแนะนำจากพี่ที่เคารพให้มาอยู่ที่ค่ายสิงห์มาวิน ซึ่งเจ้าตัวใช้เป็นสถานที่ฝึกปรือรื้อฟื้นวิชาและพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ความสำเร็จที่เวทีราชดำเนินในฐานะแชมป์ นอกจากจะทำให้ “ชาโด้” ได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือน่าจับตาแล้ว เรื่องราวชีวิตอันน่าประทับใจจากการเป็นลูกยอดกตัญญูก็ขจรขจายไปไกลจนได้รับการยกย่องมากมายจากแฟนมวยเช่นกัน โดยตอนนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า “ชาโด้” มี “แม่แป้ง” นางสมยงค์ สีด้วง เป็นกำลังใจสำคัญในการขึ้นสู้แต่ละครั้งของเขา และถึงเวลาแล้วที่ “ชาโด้” จะอ้าแขนรับความท้าทายครั้งสำคัญในการเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี เพื่อตามล่าฝันที่ใหญ่กว่า และทำให้แม่ที่เคารพรักได้ภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีกงานนี้ “ชาโด้” รู้ซึ้งดีว่าการข้ามฝากมาสู้ในศึก ONE ลุมพินี ที่นักมวยทุกคนต่างใฝ่ฝันคือภารกิจสุดท้าทาย แต่เจ้าตัวก็ไม่หวั่น และพร้อมสั่งสมประสบการณ์ในเวทีมาตรฐานระดับโลก ที่มีทั้งโอกาสและช่องทางต่อยอดมากมายซึ่งจะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายสำคัญนั่นคือการยกระดับให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นนอกจากนี้ “ชาโด้” ยังเชื่อว่าการชกใน ONE ลุมพินี จะช่วยให้เขาได้โอกาสลองอะไรใหม่ที่ไม่เคยลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสู้ภายใต้นวมเปิดนิ้ว ขนาด 4 ออนซ์ ที่จะช่วยให้เขาต้องพัฒนาฝีมือขึ้นในอีกระดับ

ฝันใหญ่ต้องไขว่คว้า
ชาโด้ vs มามูกา

ภารกิจวัดใจครั้งแรกของ “ชาโด้” ในศึก ONE ลุมพินี ต้องวัดฝีมือกับ “มามูกา” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แต่ด้วยไฟต์นี้ชกในกติกามวยไทยเจ้าตัวจึงเห็นโอกาสที่จะเอาชนะได้ โดยตั้งใจจะประเดิมการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เพื่อกรุยทางสู่โอกาสไต่สู่เวทีระดับโลกต่อไป

ติดตามชม “ชาโด้ vs มามูกา” ศึก ONE ลุมพินี 52 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 16 ก.พ.นี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้