ผัวฉุนเมีย เงินดิจิทัล 1 หมื่น ยังไม่เข้าบัญชี ทุบหัวเลือดอาบ

เงินดิจิทัล

ผัวฉุนเมีย เงินดิจิทัล 1 หมื่น ยังไม่เข้าบัญชี ทุบหัวเลือดอาบ

เงินดิจิทัล

ผัวฉุนเมีย ให้นำสมุดบัญชีไปอัปเดต เงินดิจิทัล 1 หมื่น แต่เงินยังไม่เข้าบัญชี เลยหันไปก๊งเหล้าแก้เครียด ก่อนมีปากเสียง คว้าแม่กุญแจกระหน่ำทุบหัวเมียเลือดอาบ เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 30 กันยายน 2567 ร.ต.ท.สมประสงค์ พลลาภ รอง สวป. สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าตำรวจชุมชนตำบลสามพร้าว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี มีเหตุสามีทำร้ายภรรยา ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เหตุเกิดที่บ้านพักแห่งหนึ่ง บ้านหนองลี่หู หมู่ 11 ตำบลสามพร้าว จึงพร้อมด้วยผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ น.ส.ทวีพร ขอสงวนนามสกุล อายุ 46 ปี ชาวตำบลสามพร้าว ยืนรอตำรวจอยู่บริเวณหน้าบ้าน สภาพศีรษะแตก มีคราบเลือดบนหัวและผ้ากันเปื้อน พร้อมเล่าว่า ตนโดนสามีชื่อ นายตั้ม อายุ 43 ปี ชาวบุรีรัมย์ ใช้แม่กุญแจทุบศีรษะหลายครั้งจนหัวแตก ต้องวิ่งหนีออกจากบ้านไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาว โดยพี่สาวได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ขณะพี่สาวเข้าไปสอบถามน้องเขย โดยสองผัวเมียได้โต้เถียงกัน ผัวอ้างว่าเมียได้ถืออาวุธมีด ส่วนผัวถือรีโมททีวีเพียงอันเดียว และผัวได้หลบหนีก่อนตำรวจไปถึง น.ส.ทวีพร เล่าทั้งน้ำตาว่า เช้าวันนี้ตนส่งลูกไปโรงเรียนเสร็จแล้ว ได้นำสมุดบัญชีธนาคารของสามีไปปรับดูว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เข้าหรือยัง โดยไปหลายที่ แต่ปรากฏว่าเงินไม่เข้าบัญชีเลย จึงได้กลับมาบ้านบอกนายตั้มว่า จะได้เงินวันที่ 20 เดือนตุลาคม หลังจากไปธนาคารทำการผูกพร้อมเพย์เอาไว้ให้ แต่สามีก็ไม่พอใจ โมโห อารมณ์ฉุนเฉียว โวยวาย ทำให้มีปากเสียงกัน ตนก็เลยไปซื้อเหล้าขาวขวดเล็กเอาไปให้นายตั้มดื่ม เพื่อให้นายตั้มใจเย็นลง ไม่โกรธ หลังจากดื่มเหล้าไปหมดขวด นายตั้มก็มาขอเงินกับตน เพื่อจะไปซื้อเหล้ามาดื่มต่อ ก่อนที่สามีจะโมโห ขึ้นมาทุบทำลายประตูหน้าต่าง

ตนจึงต่อว่านายตั้มว่า ไม่ได้สร้างอย่ามาทุบทำลายบ้านหลังนี้ มีแต่พี่ชายสร้าง หลายครั้งแล้วที่ทำแบบนี้ ทำให้นายตั้มโมโห ไปเอาสายไฟมาขว้างปาใส่ตน และเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ตนก็ไปหยิบมีดขอมาไว้ขู่นายตั้มไม่ให้เข้ามาทำร้าย แต่นายตั้มก็เข้ามาทำร้ายใช้กำปั้น ชกที่ศีรษะตนหลายครั้ง แล้วก็เอาแม่กุญแจ มากระหน่ำทุบหัวตน 10 กว่าครั้ง ทำให้หัวแตก ตนจึงวิ่งหนีออกจากบ้าน มาหาพี่สาวขอความช่วยเหลือ “ยอมรับว่าเคยทะเลาะมีปากเสียงกับสามีหลายครั้ง และเคยถูกทำร้ายร่างกาย แต่ไม่หนัก จึงไม่ได้แจ้งตำรวจ แต่ครั้งนี้หนักสุดที่โดนสามีทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนได้จดทะเบียนหย่ากับสามีไปแล้วเมื่อปี 2562 แต่สามีไม่ยอมย้ายหนีออกจากบ้านไป อ้างว่าไม่มีที่ไป ด้วยความใจอ่อน จึงให้สามีอาศัยอยู่ที่บ้าน เพราะมีลูกด้วยกัน 2 คน เขาจะทำตัวใหม่ แต่ก็เหมือนเดิม” นางอ้อย อายุ 51 ปี พี่สาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ขณะที่ตนนอนอยู่ในบ้าน น้องสาวเข้ามาเคาะประตูบ้านขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้ออกมาดูพบว่าน้องสาวเลือดอาบหน้า บอกว่าโดนสามีใช้แม่กุญแจทุบหัว ทำให้ตนตกใจเห็นสภาพน้องสาวเป็นแบบนี้ โดยปกติน้องสาวกับน้องเขยจะทะเลาะมีปากเสียงกันเกือบทุกวัน ที่ผ่านมาน้องสาวมาเล่าให้ฟังว่าถูกร้ายร่างกายบ่อย แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก ได้แต่สงสารน้องสาว ต้องหาเงินเลี้ยงลูกและเลี้ยงสามีด้วย คิดว่าสาเหตุมาจากเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่น้องเขยยังไม่ได้ ทำให้ทะเลาะกัน เบื้องต้นอาสากู้ภัย ได้ทำการปฐมพยาบาล ทำความสะอาดบาดแผลที่ศีรษะ แล้วพาไปส่งที่โรงพยาบาลศูนย์ เพื่อทำการเย็บบาดแผล หากมีความประสงค์ ต้องการเอาเรื่องดำเนินคดีกับสามี ก็ให้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป