บุกรวบ ตำรวจเก๊ หลอกเงินหมอโรงพยาบาลดัง

บุกรวบ

บุกรวบ ตำรวจเก๊ หลอกเงินหมอโรงพยาบาลดัง เปิดคำให้การสารภาพ

บุกรวบ

บุกรวบ ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังบุกจับสาว ตำรวจเก๊ โทรหลอกเงินหมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เปิดคำให้การสารภาพ ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดี
วันที่ 15 มิ.ย.2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ธัญญาภัทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ จ.1 19/2566 ลงวันที่ 22 พ.ค2566 ในข้อหา เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน

บุกรวบ

สืบเนื่องจากมีแพทย์หญิงจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.กำแพงเพชร แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร มีโทรศัพท์แอบอ้างว่าเป็นร้อยเวรของ สภ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย บอกว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินเกี่ยวกับยาเสพติด พูดจาโน้มน้าวจนแพทย์หญิงคนดังกล่าวหลงเชื่อ และแพทย์หญิงโอนเงินไปเพื่อตรวจสอบบัญชีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แพทย์หญิงหลงเชื่อจึงได้โอนเงิน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 819,100 บาท หลังจากแพทย์หญิงโอนเงินไปแล้วมาทราบทีหลังว่าถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า น.ส.ธัญญาภัทร์ มาพักอาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่งในต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม จึงเข้าตรวจสอบและได้รับแจ้งว่า

 

บุกรวบ

ผู้ต้องหาออกไปทำธุระ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณถนนสาธารณะ หน้าร้านอู๋แซ่บเวอร์ ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
จากการสอบถาม น.ส.ธัญญาภัทร์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเปิดบัญชีธนาคารออมสินมาประมาณ 8 ปี แล้ว และเมื่อเดือน พ.ค.2566 ตนตกงานและได้ค้นหาแอปพลิเคชั่นกู้เงินออนไลน์ในกูเกิ้ล และได้พบแอปฯหนึ่งซึ่งมีหน้าโปรไฟล์เป็นรูปโลโก้ของธนาคาร ตนหลงเชื่อว่าเป็นแอปฯของธนาคารจริง จึงได้ทำการติดต่อไปเพื่อจะขอกู้เงิน

บุกรวบ

น.ส.ธัญญาภัทร์ ให้การต่อว่า และเจ้าของแอปฯก็ได้ให้ตนทำตามขั้นตอน เช่น การสแกนใบหน้า ส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชนหน้าหลัง และส่งหมายเลขบัญชีให้ หลังจากที่ทำรายการเสร็จ แอปฯดังกล่าวแจ้งกับตนว่าได้ทำรายการเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอการอนุมัติเงินกู้จากธนาคารต่อไป แต่หลังจากนั้นไม่นานตนได้รับแจ้งธนาคารว่า ได้มีเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนแบบผิดปกติให้ตนตรวจสอบ น.ส.ธัญญาภัทร์ ให้การอีกว่า หลังจากที่ตนตรวจสอบพบว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารของตนจริงเป็นเงินเกือบ 2 ล้านกว่าบาท และได้มีการกดเงินออกจากบัญชีของตนเช่นกัน โดยที่ตนไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมเลย หลังจากนั้นก็มีเงินเข้ามาในบัญชีของตนเรื่อย ๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับธนาคารเพื่อทำการอายัติบัญชีของตน จากการตรวจสอบบัญชีของตนตอนนี้มียอดเงินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งอายัติกับธนาคารไว้เป็นเงินในบัญชีตนกว่า 2 ล้านบาทเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป