‘ทักษิณ’ ไปทำทีซีสแกน-เอ็มอาร์ไอ อาการปลอดภัยแล้ว

‘ทักษิณ’ ไปทำทีซีสแกน-เอ็มอาร์ไอ อาการปลอดภัยแล้ว เผยขั้นตอนอยู่รพ.เกิน 60 วัน

ไปทำทีซีสแกน

‘ทักษิณ’ ไปทำทีซีสแกน-เอ็มอาร์ไอ อาการปลอดภัยแล้ว เผยขั้นตอนอยู่รพ.เกิน 60 วัน ต้องนำเสนอไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างรักษาตัวภายนอกเรือนจำที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยนายทักษิณอยู่ในชุดคนไข้สีฟ้า สวมหน้ากากอนามัย นอนอยู่บนเตียงรถเข็นของผู้ป่วย ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 14 ต.ค.66 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าเมื่อช่วงช่วงเช้าวันที่ 13 ต.ค. เวลา 10.00 น. ทีมแพทย์ได้ประเมินสุขภาพของนายทักษิณ และนำตัวไปทำการซีทีสแกน และเอ็มอาร์ไอ โดยดำเนินการเสร็จสิ้นในเวลา 11.00 น. ขณะนี้อาการปลอดภัย กลับไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยเดิม โดยการรักษาทั้งหมดเป็นไปตามระบบการรักษาผู้ป่วยของแพทย์ ส่วนรายละเอียดของการเจ็บป่วยนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นไปตามหลักการคุ้มครองสิทธิของผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์

เมื่อถามว่าการนำตัวนายทักษิณไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอนั้น จะเกี่ยวข้องกับระบบสมองหรือไม่ นายสหการณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ เพราะที่ผ่านมาอดีตนาฯ เจ็บป่วยหลายโรครุมเร้า เมื่อถามถึงประเด็นการส่งตัวนายทักษิณไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอI ทางครอบครัวรับทราบหรือไม่ นายสหการณ์ กล่าวว่า ปกติญาติจะสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยได้อยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องปกติที่ญาติจะรับทราบกระบวนการการรักษาทั้งหมด ทางแพทย์ที่รักษายังไม่ได้แจ้งกลับทางราชทัณฑ์เพิ่มเติมว่า จะขยายระยะเวลาการนอนพักรักษาตัวของนายทักษิณไปสิ้นสุดที่ช่วงใด
นายสหการณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ในช่วงวันที่ 22 ต.ค. นายทักษิณจะเข้าสู่ขั้นตอนการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำฯ เกินกว่า 60 วัน หากเป็นเช่นนั้นทีมแพทย์ต้องนำส่งความเห็น การวินิจฉัยเสนอต่อผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จากนั้นอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาความเห็นดังกล่าวของแพทย์ และนำเสนอไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นไปตามลำดับชั้น เพื่อให้รับทราบถึงกระบวนการการรักษาผู้ต้องขังป่วย หากจะรักษาเกินกว่า 120 วัน ต้องนำเสนอไปยังรมว.ยุติธรรม