ด่วน ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม หน่อง ท่าผา แล้ว

ด่วน ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม หน่อง ท่าผา แล้ว ที่ จ.กาญจนบุรี เหตุต่อสู้จนท.

ด่วน

วิสามัญมือยิงสารวัตรแบงค์ ด่วน ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม หน่อง ท่าผา มือยิง สารวัตรแบงค์ แล้ว ที่ จ.กาญจนบุรี เนื่องจาก นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ต่อสู้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 66 เวลา 05:45 น. ชุดสืบสวนกองบัญชาการสอบสวนกลางเหตุวิสามัญฆาตรกรรม นายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.462/2556 ลง 7 ก.ย.66

ด่วน

เนื่องจากคนร้ายต่อสู้ เหตุเกิดที่ ซอยโรงเจร้างหลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี สภาพศพปืนยังตกอยู่ที่มือนายหน่อง หลังยิง สารวัตรแบงค์ เสียชีวิต ที่งานเลี้ยงบ้านกำนันนก โดยเมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 8 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเข้าปิดล้อม ซอยโรงเจร้างหลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี เพื่อจะจับกุมนายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.462/2556 ลง 7 ก.ย.2566 ที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต แต่ระหว่างปิดล้อมคนร้ายกลับมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขวาง ชักอาวุธปืนยิงใส่ต่อสู้เพื่อเปิดทางหลบหนี จึงทำให้เกิดการยิงปะทะกันอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อสิ้นเสียงปืนจึงพบร่างนายธนัญชัย นอนสิ้นลมหายใจอยู่บริเวณข้างรถยนต์กระบะของเจ้าตัวในที่สุด

ด่วน

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งลงนามโอนคดีดังกล่าว มาอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม แล้วนั้น พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เตรียมเบิกตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ออกจากห้องควบคุมของสภ.เมืองนครปฐม เพื่อนำตัวพามายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อทำการสอบปากคำต่ออย่างละเอียด

ด่วน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากนายประวีณ ตัดสินใจเข้ามอบตัวเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา และ อยู่ในความควบคุมของตำรวจกองปราบ กับ สภ.เมืองนครปฐม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งให้นายธนัญชัยยิง พ.ต.ต.ศิวกร แต่อย่างใด เพียงแต่ยอมรับว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์จริง ซึ่งนายธนัญชัยตัดสินใจก่อเหตุเองของไม่เกี่ยวกับตน
ทั้งนี้แม้ผู้ต้องหาจะยืนกรานปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา และมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่โดยเฉพาะคำให้การของพยานขณะเกิดเหตุ ที่ล้วนให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า ก่อนเกิดเหตุนายประวีณ ได้เดินไปนั่งที่โต๊ะของกลุ่มลูกน้อง ก่อนจะมีการพูดคุยอะไรบางอย่างกับนายธนัญชัย จากนั้นให้หลังจากนั้นแคา 5 นาที นายธนัญชัย ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินตรงมาก่อเหตุทันที