ชัยชนะคือของหวาน “ก้องไกล” ฮึดล่าโบนัสเพิ่มเพื่อต่อเติมบ้านให้สมบูรณ์
“ก้องไกล” กลับมาพร้อมความกระหายชัยชนะ เล็งดับซ่า “ซิลวิอู” แบบไม่ครบยก เก็บโบนัสต่อเนื่องเพื่อนำไปสร้างบ้านให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้ครอบครัวได้อยู่กันแบบอบอุ่น “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย” มวยซ้ายใจเด็ด วัย 24 ปี จากเมืองสองแควพิษณุโลก สะกดคำว่าชนะครั้งแรกเป็นแล้วยิ่งคึกคักเป็นเท่าตัว พร้อมใส่สุดพลังปะทะมวยบ้าดีเดือดจากโรมาเนีย “ซิลวิอู วิเตซ” วัย 29 ปี ดีกรีแชมป์มวยไทยกรังด์ปรีซ์ รุ่น 61 กก. ปี 2564 เตรียมเจอกันในคู่เอกภาคอินเตอร์ กติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต 139 ป. ของศึก ONE ลุมพินี 30 ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้
สองไฟต์แรกในศึก ONE ลุมพินี เจ้าของรางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่นชายปี 2563 ของการกีฬาแห่งประเทศไทยต้องเจอแรงกดดันถาโถมไม่น้อย เมื่อยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งอันคุ้นเคยออกมาได้ ตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนสองไฟต์ติดต่อกันให้กับ “ซุปเปอร์บอล ทีเด็ด 99” คู่ปรับหน้าเดิม แต่ด้วยหัวจิตหัวใจที่มุ่งมั่น “ก้องไกล” ได้ซ้อมให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อกลับมาล่าแต้มชัยแรกมาครองให้ได้ จนกระทั่งในไฟต์ล่าสุดศึก ONE ลุมพินี 23 “ก้องไกล” เปิดซิงได้รับการชูมือเป็นฝ่ายชนะครั้งแรกได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะน็อกยกสอง “แปดแสนเล็ก พีเค.แสนชัยฯ” อย่างสุดสวย พร้อมคว้าโบนัส 3.5 แสนบาท กลับบ้านไปฝากครอบครัวเป็นครั้งที่สอง จึงช่วยปลดล็อกความกังวลที่ก่อกวนความคิด ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น โดยเจ้าตัวตั้งเป้าเดินหน้าเก็บชัยชนะต่อเนื่องเพื่อลุ้นโอกาสไปบู๊ศึกใหญ่ ONE เหมือนคนอื่นบ้าง
ชั่วโมงนี้ “ก้องไกล” คือนักสู้ที่กำลังได้ใจ กลับมาชกในศึก ONE ลุมพินี อีกครั้งในฐานะผู้ชนะ ทำให้เจ้าตัวยิ่งอยากโชว์ผลงานให้ออกมาดีที่สุด โดยหวังปิดเกมเร็วคู่ชกและคว้าโบนัสต่อเนื่อง เพื่อนำเงินที่ได้ไปต่อเติมบ้านให้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมให้ครอบครัวเข้าไปอยู่ร่วมกันแบบอบอุ่นในเร็ววันนี้
อีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้ “ก้องไกล” เลือดสูบฉีดแรงคือการได้เห็นรุ่นพี่อย่าง “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักชกที่ตนเองเคยเอาชนะมาได้ทั้ง 2 ครั้งที่เจอกัน กลายเป็นคนล่าสุดที่ได้สัญญาเป็นนักกีฬา ONE เต็มตัว เชื่อถ้าทำหน้าที่บนเวทีเต็มที่สักวันจะได้รับโอกาสทองแบบนี้เช่นกัน
ครั้งนี้ “ก้องไกล” ต้องเจอนักชกต่างชาติเป็นครั้งแรกในรายการนี้ โดยทาง “ซิลวิอู” ถือว่าเป็นจอมอึดชนิดไม่ธรรมดา เพราะเคยปะทะฝีมือกับชั้นแนวหน้าอย่าง “เสกสรร” และ “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” มาแล้ว และแน่นอนว่าไม่มีฝ่ายไหนอยากกลับไปพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำอีก “ก้องไกล” จึงยื่นคำท้าคู่ชกให้มายืนแลกหมัดกลางเวทีให้รู้เรื่องกันไป
