จ่อจับ-ร่วม “แอม ไซยาไนด์” เอี่ยวกระทำความผิด นำกระเป๋า “ก้อย” ซ่อน
จ่อจับ-ร่วม “แอม ไซยาไนด์” “สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. ยืนยันคดีชัดเจนมากขึ้น จ่อออกหมายจับอีก หลังชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” พบกระเป๋าแบรนด์เนมของ “ก้อย-ศิริพร ขันวงษ์” 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิตริมน้ำแม่กลองถูกส่งมาให้กับคนสนิทของ “แอม” ถึงขนาดมีชื่อให้เข้าเยี่ยมถึงในเรือนจำ ขัดกับการให้ปากคำของ “แอม” ที่อ้างเอาไปทิ้งขยะแล้ว เชื่อทั้งหมดเป็นการอำพรางหลักฐานทางคดี
ตำรวจชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าผู้อื่นด้วยการวางสารพิษไซยาไนด์มีผู้เสียชีวิตหลายรายยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน ที่สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 พ.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 ปาก ก่อนเปิดเผยว่า พยานรายนี้เป็นพยานปากใหม่เคยเป็นเพื่อนสนิทของ “แอม ไซยาไนด์” แล้วติดต่อกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ชุดทำงานอยู่ระหว่างสอบสวนว่าจะมีประเด็นอะไรบ้างยืนยันขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลมากพอที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีหลายภาคส่วนเข้ามาให้ข้อมูลมากมายในคดีนี้
“ช่วงเช้าที่ผ่านมามีนายหน้าขายประกันที่นางสรารัตน์ หรือแอม เคยติดต่อขอทำประกันให้กับนายแด้ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ บช.ภ.7 มีข้อมูลว่านางสรารัตน์ หรือแอม พยายามเรียกวงเงินประกันหากเกิดการตายสูงถึง 7 ล้านบาท แม้จะแนะนำผลได้ผลเสียจากนายหน้าขายประกันรายนี้แล้วก็ตาม” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
ขณะที่ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ตัวแทนจากมูลนิธิ วิน วิน ผู้ที่นำพยานรายนี้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ กล่าวว่า พยานคนดังกล่าวตามเจอจากกลุ่มหวยทิพย์ เมื่อสอบถามข้อมูลเชิงลึกกลับพบข้อมูลมากกว่านั้นคือแทบไม่มีเรื่องหวยเลย กลับมีเรื่องรถเก๋งที่นางสรารัตน์ หรือแอม ออกรถป้ายแดงแล้วนำไปขาย ติดต่อให้พยานรายนี้ให้ข้อมูลตำรวจ เนื่องจากเป็น 1 ในผู้ที่ “แอม” ใส่ชื่อให้เข้าเยี่ยมได้ในเรือนจำ ขณะเดินทางไปรับตัวพยานคนดังกล่าวกลับพบกล่องพัสดุส่งมาที่อยู่ตามบัตรประชาชนของพยาน เมื่อเปิดดูพบว่ามีถุงขยะสีดำภายในมีกระเป๋าถือยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง โทรศัพท์มือถือและกระเป๋าใบเล็กอีก 3 ใบ ถูกส่งมาจาก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. ทั้งหมดคาดเป็นของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ ที่หายในที่เกิดเหตุริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ต่อมาเวลา 18.30 น. หลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 60 ปี พยานรายนี้ พร้อม น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ เดินออกมาจากห้องสอบสวน ก่อน น.ส.เอ เปิดเผยว่า รู้จักกับ “แอม” มาตั้งแต่ปี 63 เคยร่วมลงทุนเล่นแชร์กับลงทุนปล่อยเงินกู้ร่วมกันบ้างแต่ได้เงินครบทุกบาท ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา “แอม” เคยปรึกษาเรื่องส่วนตัวบ้าง รวมทั้งเรื่องเล่นแชร์แล้วโดนโกง เท่าที่รู้คือโดนคนอื่นโกงไม่ทราบว่าเป็นข้ออ้างหรือข้อเท็จจริง
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ชุดคลี่คลายคดีพบกระเป๋าของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิต มาจากพยานคนนี้เป็นคนที่ “แอม” ไว้วางใจพยานรายนี้ไม่ทราบว่าเป็นพัสดุอะไรเพราะคอนโดฯที่พัสดุถูกส่งไปถึงพยานรายนี้ไม่ได้อยู่นานแล้ว ในส่วนของคดีมีความชัดเจนมากขึ้น พบแล้วว่าใครให้การเท็จบ้างใครมีส่วนร่วมบ้างใครเอาของไปส่ง ขณะนี้ทราบหมดแล้ว ต้องสรุปอีกครั้งว่าใครจะมีความผิดในช่วงไหน ใครเอาของกลางที่เป็นของคนตายไป ใครเอาของคนตายไปส่ง ทั้งนี้พยานหลักฐานไซยาไนด์จาก พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ กับ รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ มีประโยชน์ช่วยทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้มาก รวมถึงหลักฐานทุกชิ้นได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบและนิ้วมือแฝงดีเอ็นเอ หมดทุกชิ้น เพื่อดูว่าใครจับต้องของชิ้นนี้บ้าง ผลออกมาทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงวัตถุพยานที่เพิ่งได้รับคาดวันที่ 12 พ.ค. หลักฐานทุกอย่างจะครบถ้วน
“ส่วนที่ “แอม” ระบุว่าเอากระเป๋าของก้อยใส่ถังขยะไป เป็นเรื่องที่ไม่จริง กระเป๋ากลับถูกส่งไปให้พยานรายนี้ ผมทราบข้อมูลบุคคลต่างๆว่าใครทำอะไร อย่างไรบ้าง อยู่ระหว่างการวิเคราะห์มา ไล่เรียงที่จะดำเนินคดี ส่วนเรื่องเงิน 78 ล้านบาทที่หมุนเวียนอยู่ในบัญชีของแอม ทราบเพียงเส้นทางการเงินขาออกว่าโอนไปไหนบ้างแล้ว เหลือเพียงขาเข้าอยู่ระหว่างรอธนาคารส่งเอกสารมาให้ และผมจะนำตัวผู้ส่งพัสดุและพยานคนดังกล่าวไปสอบปากคำต่อที่ บช.ภ.7 หากพบเกี่ยวข้องกับความผิดจะขอศาลออกหมายจับทันที การส่งของนั้นอาจเป็นการอำพรางคดีเพื่อให้หาของกลางไม่เจอ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว