จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม ตุ๋นนักลงทุนธุรกิจเกสต์เฮ้าส์

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม ตุ๋นนักลงทุนธุรกิจเกสต์เฮ้าส์ เสียหายเกือบล้าน

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม ปอศ. นำกำลังบุกรวบขบวนการตุ๋นใช้ แบงก์ปลอม ลวงนักลงทุนธุรกิจเกสต์เฮ้าส์ เสียหายเกือบล้านบาท แฉพฤติกรรม เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา วันที่ 19 ก.ค.2566 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1432/2565 ลงวันที่ 18 ก.ค.2565

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม

ฐานความผิด “ร่วมกันปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ” โดยจับกุมได้ที่ถนนบรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

ภายหลังมีผู้เสียหายต้องการเงินทุนมาปรับปรุงธุรกิจเกสเฮ้าส์ของตน จึงหาแหล่งเงินทุน แล้วรู้จักกับ น.ส.หงส์หยก อ้างว่ารู้จักกับกลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่มีกำลังเงินมาลงทุนกับผู้เสียหายได้ จึงพูดหว่านล้อมชักชวนให้ผู้เสียหาย ลงทุนซื้อกิจการโรงแรมที่พัทยา มูลค่าประมาณ 510 ล้านบาท ก่อนนัดทำสัญญาที่โรงแรมย่านถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ และชำระค่าดำเนินการ

จับขบวนการใช้แบงก์ปลอม

เพื่อให้ได้พันธบัตรรัฐบาล มูลค่า 600 ล้านบาท จากกลุ่มนายทุน โดยมีผู้เสียหาย นายธนกฤต, น.ส.หงส์หยก และ นายสันตินันท์ ผู้ร่วมขบวนการอีกราย มาร่วมลงนามในสัญญา และคิดค่าดำเนินการดังกล่าวเป็นเงิน 1,000,000 บาท ในงวดแรก ผู้เสียหายได้สั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค 700,000 บาท ยื่นโดยตรงให้นายสันตินันท์ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของพันธบัตรรัฐบาล 600 ล้านบาท งวดที่ 2 ผู้เสียหาย โอนจ่ายเข้าบัญชีธนาคารของนายสันตินันท์ เป็นเงิน 140,000 บาท โดยนายสันตินันท์แจ้งกับผู้เสียหายว่าจะนำพันธบัตรรัฐบาลไปแลกเป็นเงินสดมาให้ผู้เสียหายเพื่อนำไปลงทุนตามสัญญา

ต่อมาวันที่ 24 ธ.ค.2562 กลุ่มนายทุนไม่สามารถแสดงเอกสารพันธบัตรรัฐบาลที่ชัดเจนให้ผู้เสียหาย และเจ้าของโรงแรมที่จะขายกิจการได้ ผู้เสียหายจึงนำข้อมูลพันธบัตรที่นายสันตินันท์อ้าง ไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่านายสันตินันท์ถือพันธบัตรดังกล่าวจริง แต่ไม่ใช่เจ้าของ ไม่สามารถให้ข้อมูลจำนวนเงินได้ แต่พบว่ามีบุคคลจำนวนมากสอบถามลักษณะเดียวกัน

จากการตรวจสอบพบว่า พันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวเป็นของปลอม ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเสียเงินไป 840,000 บาท จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ก่อนรวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา 4 คน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหารายอื่นได้หมด กระทั่งจับกุมนายธนกฤตผู้ต้องหารายสุดท้ายในคดีนี้ได้จนครบขบวนการ จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป